นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของสองประเทศได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ ถือเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน และนำไปสู่ความร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกันต่อไป ซึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในธุรกิจตลาดทุนพร้อมกัน
ไปด้วย ก.ล.ต. ไทยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความสำเร็จของตลาดทุนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการพัฒนาที่จะก้าวต่อไปเคียงข้างกันในเวทีภูมิภาคและในเวทีโลกในลำดับต่อ ๆ ไป”
นางสาววัฒนา ดาลาลอย (Ms. Vathana Dalaloy) เลขาธิการ ค.ล.ต. กล่าวว่า “การร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ถือว่าเป็นฉบับแรกระหว่าง ค.ล.ต. และ ก.ล.ต. ต่างประเทศ ค.ล.ต. จึงมีความคาดหวังค่อนข้างสูงกับการลงนามในครั้งนี้ โดยความร่วมมือทางด้านธุรกิจหลักทรัพย์ของทั้งสองประเทศกำลังอยู่ในระยะก่อร่างสร้างตัว ซึ่งปัจจุบันฐานนักลงทุนไทยที่เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ลาวมีถึง 29% ของนักลงทุนต่างประเทศทั้งหมด และจัดเป็นอันดับที่สอง รวมถึงมีบริษัทหลักทรัพย์ร่วมทุนร่วมกัน นอกจากนั้น
ตลาดหลักทรัพย์ลาวได้เซ็น MOU ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย ฉะนั้น การร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. ด้วยกันในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณที่ดีที่แจ้งให้เรารู้ว่า การร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. ทั้งสองจะมีการผันขยายหนักแน่นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านธุรกิจหลักทรัพย์ การพัฒนาบุคลากร หรือการแลกเปลี่ยนบทเรียนซึ่งกันและกัน”
ทั้งนี้ ค.ล.ต. จัดตั้งตามดำรัสหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ 255 (Decree on the Securities and Exchange No. 255/PM) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2553 มีตลาดหลักทรัพย์ 1 แห่ง คือ The Lao Securities Exchange (LSX) ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2553 และเริ่มทำการซื้อขายเมื่อต้นปี 2554
โดยปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public (BECL) และ EDL Generation Public Company (EDL-Gen) มีมูลค่าตลาด (market capitalization) รวมประมาณ 5,616,155 Mil.LAK (21,359 ล้านบาท) และมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 2 แห่ง ได้แก่ บล. ล้านช้าง และ บล. BCEL กรุงไทย ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ บล. เคที ซีมิโก้ จำกัด ของไทย