ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

จันทร์ ๐๔ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๐๙:๔๔
- ราคาทองลงแรง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี

- SPDR ถือทองลดลง 2.4 ตัน

- วันนี้คาดราคาทองคำและโลหะเงินรีบาวด์

แนวโน้มการเคลื่อนไหว:

หลังจากที่ตลาดเริ่มคลายความวิตกกังวลในสถานการณ์กรีซลดลง จากการที่รัฐสภากรีซลงมติอนุมัติร่างกฎหมายที่กำหนดรายละเอียดในมาตรการรัดเข็มขัดและมาตรการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี โดยดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ออกมาสูงขึ้นและดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 55.3 จากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.9 และเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 53.5 ทำให้มีความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงและหุ้นมากขึ้นทำให้มีแรงเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์โดยลงไปต่ำสุดที่ 1,478.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ และปิดที่ 1,486.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 13.80 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนโลหะเงินลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 33.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ สัปดาห์นี้ตลาดให้ความสนใจการประชุมธนาคารกลางยุโรปและการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัส ธนาคารกลางอังกฤษคาดตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0.5% แต่ธนาคารกลางยุโรปคาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.5% เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ รวมทั้งการรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ ราคาทองที่ปรับตัวแรงในช่วง 1 สัปดาห์ทีผ่านมาคาดจะมีการรีบาวด์ทางเทคนิคซึ่งจะมีแนวต้านอยู่ที่ 1,495-1,500 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ส่วนโลหะเงินคาดว่าจะมีแนวต้านบริเวณ 34.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54

Close chg. Support Resistance

22,350 -40.00 22150,21100 22400,22500

ราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวลงแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเช้าวันนี้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นประมาณ 40 ส.ต. ทำให้ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สจะเปิดปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ดีคาดราคาทองตลาดโลกจะมีการรีบาวด์ทางเทคนิค รวมทั้งการคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปจะส่งผลบวกระยะสั้นต่อราคาทองคำได้ อาจเก็งกำไรโดยการเปิดสถานะซื้อ โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,500 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54

Close chg. Support Resistance

1,087 +2.00 1050,1030 1100

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มฟื้นตัวตามราคาทองคำได้ โดยคาดมีแนวต้านอยู่ที่ 34.50-35 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ แนะนำเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ แต่เป็นเพียงระยะสั้นในช่วงต้นสัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นอาจปิดสถานะซื้อเมื่อราคาพุ่งแตะแนวต้านที่ระดับดังกล่าว ขณะที่มีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 33.50 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้