การลงนามในบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบและเงื่อนไขที่ทำให้กระบวนการพิจารณาอนุญาตบริษัทที่จัดตั้งและมีหุ้นจดทะเบียนอยู่แล้วในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศที่ลงนาม สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอีกประเทศหนึ่งได้รวดเร็วขึ้น โดยมีกระบวนการพิจารณาไม่เกิน 35 วันทำการ
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนปฏิบัติการเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียนขององค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียน (ASEAN Capital Markets Forum’s Implementation Plan) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ในการประชุมครั้งที่ 13 เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่พัทยา
สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นสามประเทศแรกที่ร่วมลงนาม ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนและตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคอาเซียนสามารถลงนามภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ได้เมื่อมีความพร้อม
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. มีความยินดีต่อความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือในตลาดทุนภูมิภาค โดยเริ่มจากไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาองค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียนมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้ระบบและกลไกในตลาดทุนเอื้ออำนวยให้ภาคเอกชนสามารถเติบโตได้ การมีกรอบความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสร้างโอกาสทางหนึ่งให้ภาคเอกชนไทยสามารถขยายธุรกิจไปในภูมิภาคและเตรียมเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน”
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจของบริษัทต่างประเทศที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดไทย และจะเป็นประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริษัทจดทะเบียนระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนงานตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนต่อไปในอนาคต”
นายลี ชวน เต็ค ประธานองค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียน กล่าวว่า “กรอบความร่วมมือดังกล่าวเป็นหนึ่งในงานหลายด้านขององค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียน ที่มีเป้าหมายให้เกิดการเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียนซึ่งสอดคล้องกับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงข้อตกลงร่วมกันขององค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียน เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรอบความร่วมมือนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนนำหลักทรัพย์ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคมากขึ้น เพื่อขยายฐานผู้ลงทุน และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนในภูมิภาคมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย”
นางตัน ศรี ซารีน่า อันวาร์ ประธาน ก.ล.ต. มาเลเซีย กล่าวว่า กรอบความร่วมมือนี้จะช่วยสนับสนุนการรวมตลาดทุนในภูมิภาค พร้อมไปกับส่งเสริมให้อาเซียนเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของโลกนอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งขององค์กร ก.ล.ต. ของประเทศอาเซียนในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจของประเทศในภูมิภาค