นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอน เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ประกอบธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายสารเคมี ที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่นและปิโตรเคมี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2554 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยคณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลในรูปแบบของหุ้นสามัญปันผลในอัตรา 20 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 โดยกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 30 เมษายน 2555 ห้องบุษราคัม โรงแรมอมารี เอเทรียม ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป เพื่อจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 51 ล้านหุ้น โดยรายละเอียดการจัดสรรแบ่งเป็นหุ้นสามัญจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป 34 ล้านหุ้น และจัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด 17 ล้านหุ้น
นายกิตติ กล่าวต่อถึงแนวโน้มของผลประกอบการไตรมาส 1/2555 ว่า มีแนวโน้มที่ดี และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสารเคมีภัณฑ์ในประเทศมีขยายตัว ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์สารเคมี ที่ใช้ในการผลิตน้ำมันชนิดต่างๆ ผลิตภัณฑ์สารดูดความชื้น ดูดซับกลิ่น และสิ่งเจือปน (Adsorbent and Molecular Sieve) ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบการกรอง (Filtration) ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสี และตัวทำละลายอุตสาหกรรม สิ่งทอ ผลิตเม็ดพลาสติก ผลิตขวดน้ำ และผลิตเรซิ่น เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ของบริษัทฯมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ธุรกิจเทรดดิ้งยังคงเป็นธุรกิจหลักในสัดส่วน 85% ของรายได้รวม
ประกอบกับ บริษัทฯยังมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมทุน บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ที่จากการประเมินเบื้องต้นมียอดขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากหมดปัญหาเรื่องของน้ำมันปาล์มขาดแคลน ตลอดจนอุทกภัยที่ส่งผลทางอ้อมในการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าอีกด้วย
ขณะที่บริษัทฯยังคงประมาณการรายได้ในปี 2555 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง 85% ที่เหลือ 15% จะมาจากบริษัทร่วมทุน และโครงการก๊าซชีวภาพอัดจากฟาร์มสุกร หรือ CBG อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในเดือนเมษายน 2555 และพร้อมส่งมอบให้ บมจ.ปตท (PTT) ได้ภายในไตรมาส2/2555 แต่จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2555 เป็นต้นไป โดยโครงการดังกล่าวบริษัทฯจะได้รับรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 50 -60 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 15 ปีตามสัญญา
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนพลังงานทดแทนเพิ่มเติม 3-4 โครงการ โดยใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งการมุ่งเน้นต่อยอดการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนนั้น นอกจากเป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯแล้ว ยังเป็นการสอดคล้องกับการที่กระทรวงพลังงานได้สนับสนุนโครงการก๊าซธรรมชาติและก๊าซชีวภาพอัด ของบริษัทฯ และเพื่อให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่บริษัทฯวางไว้อีก 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้เกิน 2,000 ล้านบาท