ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,584 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,588เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.16 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,400 บาท กับ 24,500 บาท และกลับมาปิดที่ 23,350 บาท กับ 23,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,572 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,650 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 41 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง0.5% แบบ 10 บาท ลดลง 0.3% Silver Futures เพิ่มขึ้น 4% GFM12 ปิดที่ 23,640 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 23,820 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 23,630 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 23,810 บาท SVM12 ปิดที่ 910
สัญญา Comex ปิดลดลง 11.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,584 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 0.16 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 28.73 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,277.11 ตัน (ไม่ได้ทำอะไร)น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 95 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 96.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 34.44 จุด ปิดที่ระดับ 12,820.60 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 55.13 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk
- ตลาดทองคำยังคงไม่ดีขึ้นในช่วงการซื้อขายปลายสัปดาห์หลังจาก เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ออกมาเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นจำนวนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ถือเป็นหนึ่งในผู้ค้าทองคำแท่งรายใหญ่ ข่าวดังกล่าวจึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ความกังวลที่ยังมีอยู่ในเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรป และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่อ่อนแอก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัว ลดลงเช่นเดียวกัน
โดยเมื่อคืนวันศุกร์ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,573.01 เหรียญ โดยปรับตัวลดลง 22.34 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากที่สุดในปีนี้คือร่วงลง กว่า 3% เลยก็ว่าได้
ลอนดอน-เบส เทรดเดอร์ กล่าวว่า ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและไม่สามารถคาดการณ์ได้ในตอนนี้ โดยตลาดกำลังโต้ตอบต่อความกังวลในเศรษฐกิจระดับมหัพภาค ในส่วนทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจของจีน มีการแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวในตัวเลขที่ประกาศออกมาเมื่อ วันพฤหัสบดี รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อวันศุกร์เป็นจำนวนมากของจีน
- ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 9.3% จากปีก่อนหน้านี้ แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 12.1% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกประจำเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 14.1% แต่ก็ยังต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 15.1% อีกทั้ง CPI จีนประจำเดือนเมษายนออกมาตรงตามคาดการณ์คือ เพิ่มขึ้น 3.4% ในขณะที่ PPI ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.5%
อย่างไรก็ดี ยังมีข่าวร้ายต่อเนื่องมาจากทางกรุงบรัสเซิลส์ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปประกาศว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยแต่ก็ไม่มาก ทั้งนี้ระบุว่า ดูเหมือนเศรษฐกิจสเปนจะยังคงอยู่ในภาวะถดถอยตลอดปีนี้ด้วยอัตราการหดตัวของ เศรษฐกิจที่ระดับ 1.8% ในขณะที่ภาคการธนาคารของประเทศยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่ากรีซอาจถูกบังคับให้ออกจากยูโรโซน ซึ่งไม่มีเวลาเหลืออีกแล้วในการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ของการ เลือกตั้งไปจนถึงเส้นตายในสิ้นเดือนมิถุนายนสำหรับการรับเงินช่วยเหลืองวด ใหม่
Reuters และ Infoquest
- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้านี้หลังจากที่มีการรีบาวน์ ของดัชนีนิกเกอิในช่วงต้นของการซื้อขายที่ทำให้เกิดการจุดประกายการเข้าทำ กำไร แต่การปรับตัวขึ้นก็หยุดชะงักจากความกังวลในเรื่องปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปหลัง จากผลการเลือกตั้งในกรีซที่ไม่มีผลสรุปที่แน่ชัดได้เพิ่มความเสี่ยงต่อ ประเทศว่าอาจถูกขับออกจากยูโรโซนและสหภาพยุโรป
ทำเนียบประธานาธิบดีกรีซเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การเจรจาระหว่างหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส เป็นประธานในการประชุมนั้น จะดำเนินต่อไปในวันนี้ หลังจากการเจรจาเมื่อวันอาทิตย์ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้ว ปธน.ปาปูลิอาสจะจัดการประชุมกับผู้นำแต่ละพรรคจากพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคที่จะเข้าร่วมในสมัชชาชุดใหม่ แถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาครั้งใหม่จะมีขึ้นอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ โดยจะมีหัวหน้าพรรคการเมืองที่สำคัญทั้ง 3 พรรคเข้าร่วมประชุมด้วย หลังจากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ทั้งนี้ หากการเจรจาในวันนี้ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ประสบความล้มเหลว ก็จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ภายใน 1 เดือน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซิส ซิปราส ผู้นำพรรค Syriza ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายของกรีซ ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการหารือจัดตั้งรัฐบาลผสมที่จะมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลายุโรปตามคำเชิญของประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส ปธน.ปาปูลิอาสได้เชิญผู้นำจาก 4 พรรคการเมืองเข้าร่วมการหารือต่อไปในการจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ โดยทั้ง 4 พรรคได้แก่ พรรค New Democracy, Syriza, Pasok และ Democratic Left
- จีนอาจต้องมีแผนรองรับเพื่อปกป้องเศรษฐกิจที่กำลังเป็นอยู่โดยการสร้างความ ประหลาดใจไปที่ตลาดที่อยู่อาศัยและต่างประเทศ โดยชี้ให้เห็นว่านโยบายผ่อนคลายการเงินตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับเศรษฐกิจในภาวะถดถอย โดยธนาคารกลางจีนประกาศเมื่อวันเสาร์ว่าจะลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคาร พาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.นี้เป็นต้นไป การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองแบงก์พาณิชย์ครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ จะส่งผลให้สัดส่วน RRR ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของจีนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 20% ขณะที่สถาบันการเงินขนาดกลางถึงขนาดเล็กจะอยู่ที่ระดับ 16.5%
สำนักข่าว Fars ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่า ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจาดของอิหร่านและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติของรัสเซีย ได้หารือในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัซเซีย และจีน รวมเยอรมนี ที่เรียกว่ากลุ่ม P5+1 ที่กรุงแบกแดดในวันที่ 23 พ.ค.นี้ โดยจะประชุมกันในเรื่องแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยหวังที่จะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง
- ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดในเช้านี้ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยจากความไม่แน่นอน เกี่ยวกับอนาคตของกรีซต่อสกุลเงินยูโรที่ได้ถูกชดเชยโดยการกระตุ้นตลาดจาก การตัดสินใจของจีนในการตัดลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม หุ้นนอกตลาดญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนมองเห็นหนทางที่จะลดความ เสี่ยง หลังจากการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซล้มเหลว รวมไปถึงการลงมติของเยอรมนีในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด และจีนมีมาตรการเพิ่มเติมในการค้ำจุนเศรษฐกิจ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งในการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองในกรีซและการที่เจพีมอร์แกน เชนประกาศภาวะขาดทุน
- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 96 ดอลลาร์/บาร์เรลในเช้านี้ ซึ่งได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน รวมไปถึงความกังวลที่กรีซอาจถูกขับออกจากยูโรโซน และการเรียกร้องจากซาอุดิอารเบียสำหรับระดับสต็อกน้ำมันที่สูงขึ้น
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวของเจพีมอร์แกน เชส สู่ระดับ A+ จาก AA- เมื่อวานนี้ โดยระบุถึงความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและความบกพร่องในการกำกับดูแลความเสี่ยง หลังจากที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นจำนวนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- PPI เดิมอยู่ที่ 0.0 % คาดการณ์ ว่าจะคงที่เท่าเดิมที่ 0.0% ตัวเลขออกมาแย่ลงมาอยู่ที่ระดับ - 0.2%
- Prelim UoM Consumer Sentiment เดิมอยู่ที่ 76.4 คาดการณ์ว่าจะออกเท่าเดิมที่ 76.4 ตัวเลขออกมาดีขึ้นกว่าตัวเลขเดิมและตัวเลขคาดการณ์มาอยู่ที่ระดับ 77.8
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
-วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลง โดยยังทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,572 เหรียญแล้วก็ดีดกลับมาเป็นที่ 1,584 เหรียญในตลาด COMEX โดยทาง MTS Gold วิเคราะห์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวโน้มขาลงในช่วง 1,560 เหรียญ เป็นแนวรับด้านล่าง และ 1,590 เหรียญ เป็นแนวต้านด้านบนโดยที่กรีซเองยังไม่สามารถจบปัญหาลงไปได้และมีโอกาสเป็น หนี้เสียค่อนข้างสูง และมีโอกาสถูกขับออกจากกลุ่มยูโร ฉะนั้นในภาพรวมยังเห็นได้ว่าค่าเงินยูโรยังอ่อนค่าลงหลุด 1.2900 ดอลลาร์/ยูโร ลงมา และเงินบาทยังทรงตัวที่ระดับ 31.22 บาท/ดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงได้อีก แนะนำให้นักลงทุนยังเก็งกำไรในทิศทางตลาดขาลงอย่างต่อเนื่อง
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,720 บาท
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,000บาท
Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 910 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
ให้นักลงทุนเก็งกำไรในกรอบ 1570-1590 โดยแนะนำให้ขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ยังเป็นการรออยู่นอกตลาด หรืออาจจะทำ Short Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นในช่วงตลาดที่แกว่ง และทำกำไรในช่วงสั้น
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังคงถือพอร์ทประมาณ 10% ยังไม่ได้ซื้อเพิ่มใดๆ รอจังหวะเมื่อราคาปรับตัวลดลง
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง