ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บล.บัวหลวง” เป็น “AA-” จาก “A-” แนวโน้ม “Stable” จาก “Positive”

พุธ ๑๙ กันยายน ๒๐๑๒ ๑๗:๓๐
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AA-” จากเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากบริษัทแม่ คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ธนาคารกรุงเทพสามารถเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บล.บัวหลวง ได้เป็นผลสำเร็จ ผ่านการเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ทริสเรทติ้งยังคาดว่า บล.บัวหลวง จะได้รับประโยชน์จากการผสานความแข็งแกร่งทางธุรกิจกับกลุ่มธนาคารกรุงเทพมากยิ่งขึ้น อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทในฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพ ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ ตลอดจนแนวทางการบริหารงานที่ระมัดระวังของคณะผู้บริหาร ความยืดหยุ่นทางการเงินจากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม สภาพการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ตลอดจนความผันผวนของตลาดหุ้นไทย และผลกระทบจากการเปิดเสรีค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในปี 2555 ยังคงเป็นข้อจำกัดที่สะท้อนอยู่ในการจัดอันดับเครดิตของบริษัทในครั้งนี้ด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า บล.บัวหลวง จะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งทางธุรกิจของบริษัทและการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพในการรักษาความมั่นคงของธุรกิจและฐานะทางการเงินไว้ได้ ท่ามกลางแรงกดดันในการตั้งราคาและการแข่งขันที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นภายหลังการเปิดเสรีค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงนโยบายที่ระมัดระวังของบริษัทในการลงทุนและการให้สินเชื่อเพื่อการซื้อหลักทรัพย์ ตลอดจนความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะกระจายแหล่งที่มาของรายได้และขยายฐานลูกค้ารายย่อยของบริษัทด้วย

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บล.บัวหลวงยังคงมีสถานะที่เข้มแข็งในธุรกิจนายหน้าซื้อขายตราสารทุน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในแง่ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 4.7% (อันดับ 8) ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2555 เทียบกับ 4.8% (อันดับ 7) ในปี 2554 และ 4.4% (อันดับ 9) ในปี 2553 ส่วนในด้านรายได้นั้นคิดเป็นส่วนแบ่งรายได้เทียบกับอุตสาหกรรมที่ระดับ 5.0% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.8% ในปี 2553 และ 2554 ในส่วนของธุรกิจนายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์นั้น บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในแง่จำนวนสัญญาซื้อขายอยู่ประมาณ 3%-4% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ส่วนแบ่งรายได้เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 6.5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 จาก 5.5% ในปี 2554 และ 4.4% ในปี 2553

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจของ บล.บัวหลวงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีพื้นฐานมาจากผลงานในอดีตที่ได้รับการยอมรับและฐานลูกค้าของกลุ่มธนาคารกรุงเทพเป็นสำคัญ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจจัดการกองทุนซึ่งจัดว่าเป็นรายได้ที่มีลักษณะเป็นรายได้ประจำที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม รายได้จากค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนนี้คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 2% ของรายได้รวม

บล.บัวหลวงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่อยู่ในวงจำกัดเนื่องจากบริษัทมีนโยบายการลงทุนที่จำกัดอยู่เพียงการหาผลตอบแทนแบบ Arbitrage และการป้องกันความเสี่ยงจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เท่านั้น บริษัทได้ออกจำหน่ายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2553 และจัดได้ว่าเป็นผู้นำตลาดในผลิตภัณฑ์นี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากหนี้สินอนุพันธ์ทางการเงินจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ดังกล่าว ในด้านความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์นั้น บริษัทมียอดการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์คงค้างจำนวน 535 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งคิดเป็น 25% ของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและเป็น 1.8% ของการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งอุตสาหกรรม

การเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารกรุงเทพให้ประโยชน์แก่ บล.บัวหลวงหลายประการ ตัวอย่างเช่น บัญชีลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์เกือบ 1 ใน 4 ที่บริษัทได้เพิ่มมาในช่วงปี 2554 ถึงครึ่งแรกของปี 2555 เป็นลูกค้าที่ผ่านการแนะนำจากธนาคารกรุงเทพภายใต้สัญญา Introducing Agent ที่ทำไว้ร่วมกันตั้งแต่ปี 2550 นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพยังได้เริ่มกำหนดให้การขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทและการแนะนำลูกค้าให้บริษัทเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ของพนักงานของธนาคารในสาขาต่าง ๆ อีกด้วย ความสัมพันธ์ที่ธนาคารกรุงเทพมีกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มากมายช่วยให้บริษัทมีความได้เปรียบในการให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบันในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การจัดกิจกรรมให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าพบผู้บริหารของบริษัทใหญ่ ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มธนาคารกรุงเทพเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น และในบางกรณี ความสัมพันธ์ดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทได้ลูกค้าด้านวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารกรุงเทพยังเป็นผู้ให้สินเชื่อหลักแก่บริษัทในสัดส่วนกว่า 95% ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมดของบริษัทด้วย

ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บล.บัวหลวงจาก 56.34% เป็น 99.75% ตามแนวกลยุทธ์ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มในการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพมุ่งหวังจะใช้ศักยภาพในตลาดทุนของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนและหาแหล่งเงินทุนของลูกค้าในกลุ่มได้ในทุกแง่มุม นอกจากนี้ การที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้นเพิ่มขึ้นนี้ยังช่วยให้การจัดการเงินทุนภายในกลุ่มกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยให้ธนาคารสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทได้ในจำนวนที่มากขึ้นด้วย

บล.บัวหลวงมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแรงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิคงที่อยู่ที่ 54% ในปี 2553 และ 2554 ผลกำไรสุทธิในปี 2554 อยู่ที่ 464 ล้านบาท เทียบกับ 488 ล้านบาทในปี 2553 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ผลกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 320 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดง

สิทธิอนุพันธ์ ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อยู่ที่ประมาณ 2.2 พันล้านบาท โดยมีอัตราส่วนสินทรัพย์รวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 3.6 เท่า บริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิต่อหนี้สินทั่วไป ณ สิ้นปี 2554 อยู่ที่ 45% เทียบกับเกณฑ์ที่ทางการกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องดำรงไว้ที่ระดับ 7% ทริสเรทติ้งกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้