นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 3 กองทุน ในวันที่ 30 กรกฎาคม — 5 สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน อันประกอบด้วยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซีดับบลิว (KFI3MCW) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีเอส (KFI6MBS) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีวาย (KFF1YBY) ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.08% ต่อปี โดยทั้ง 3 กองทุนข้างต้นมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
“ในสัปดาห์นี้ บลจ.กสิกรไทย จะมีการเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทอายุ 1 ปี เพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเป็นโอกาสให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว โดยให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสูงถึง 3.08 % ต่อปี ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดีและถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี และให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพอใจภายใต้ความเสี่ยงที่ไม่สูงมากนัก โดยตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีวาย (KFF1YBY) จะเข้าลงทุน ประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ตราสารหนี้ Banco do Brasil S.A. และตราสารหนี้ Banco Bradesco S.A. ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB+, BBB และ BBB+ ตามลำดับ รวมถึงจะลงทุนในเงินฝาก Fist Gulf Bank, สาขาสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ A+” นายนาวินกล่าว
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ด้านกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซีดับบลิว (KFI3MCW) จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล (BBB+/Fitch) ตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย (AAA/TRIS) ตราสารหนี้ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (AA-(tha)/Fitch) พร้อมด้วยเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีเอส (KFI6MBS) จะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A-/TRIS) ร่วมด้วยตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชี่อถือจากFitch ที่ระดับ BBB-
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีอาร์ (KPPTF3MCR) เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.40% ต่อปี