ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1981 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,149 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2.2% GFZ13 ปิด 18,930 บาท และ GFG13 ปิด 19,020 บาท GF10Z13 ปิดที่ 18,940 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,020 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 14.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,243.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 12.4 เซ็นต์ ที่ระดับ 19.934 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 856.71 ตัน (ขายออก 3.6 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.59 เซนต์ ปิดที่ระดับ 95.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 109.17 จุด ปิดที่ 16,009.99 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำในวันพฤหัสบดีหลังจากที่เกิดแรงเทขายอย่างหนักในวันพุธที่ผ่านมาที่ตลาดนั้นยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมจากเฟด
จากตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่ขยายตัวระดับปานกลางนั้นพร้อมกับตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้นส่งผลให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะดำเนินการลดQE ในเร็วๆนี้ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงติดตามผลการรายงานตัวเลขการจ้างงานในช่วงต้นเดือนธันวาคมอีกครั้ง
SPDR ลดการถือครองทองคำลงอีก 3.6 ตันจากระดับเดิม 860.31 ตัน สู่ระดับ 856.71 ตัน
รายงานจากคิทโก้กล่าวว่า ทางการจีนได้มีการประกาศตัวเลขภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 50.4 จุดที่จากเดิมนั้นอยู่ที่ระดับ 50.9 จุดในเดือนตุลาคมข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็ส่งผลลดแรงความต้องการทองคำในจีนลงเช่นกันโดยเฉพาะทองคำ
จิม เวคคอฟนักวิเคราะห์จากคิทโก้ได้ระบุแนวต้านทองคำที่แข็งแกร่งจะอยู่ที่ระดับ 1,275 เหรียญ และแนวรับทองคำถัดไปที่สำคัญอยู่ที่ระดับ1,200 เหรียญถ้าหลุดจากระดับ 1,236.50 เหรียญจากที่ร่วงลงมาเมื่อคืนนี้ก็อาจจะเห็นที่ระดับ 1,225.0 เหรียญก่อน
รางานจากรอยเตอร์ระบุว่าตลาดทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากการประกาศตัวเลข Jobless Claims ของสหรัฐฯออกมาลดลง ที่บ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่จะแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต
กองทุนพอลสันกล่าวกับลูกค้าว่าเขาจะไม่ลงทุนในกองทุนทองคำเพิ่มเติมเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเมื่อใด และยอมรับว่าเขาสูญเสียเงินลงทุนส่วนตัวไปถึง 1.2% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
คณะสภาสูงแห่งผู้การธนาคารกลางสหรัฐฯได้ออกเสียงการรับรองเพื่อให้ได้รับอำนาจเต็มในตำแหน่งว่าที่ประธานเฟดหญิงคนใหม่ให้แก่เจเน็ต แยลเลน ด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 8 เสียงซึ่งก็ผ่านการรับรองในขั้นตอนนี้เพื่อสามารถทำหน้าที่และได้รับอำนาจเต็มต่อจากเบน เบอร์นันเก้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้า
นายบุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์คาดว่าเฟดจะไม่ตัดลดอัตราดอกเบี้ยในทุนสำรองส่วนเกินเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปและจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% เช่นนี้ต่อไป แม้นางเยเลนได้กล่าวไว้ล่าสุดว่าอาจจะมีการพิจารณาล่วงหน้าได้ แต่บุลลาร์ดกล่าวว่ามุมมองของสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
นายดรากิ ประธานอีซีบี แถลงปกป้องการตัดลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีหลังถูกเยอรมันกล่าวหาเมื่อเย็นวานนี้ว่า การคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นเวลานานทำให้เกิดความเสี่ยงที่อีซีบีได้ตระหนักอย่างระมัดระวังแล้วก่อนที่จะมีการตัดลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุด แต่คำกล่าวของเขาก็ได้ลดความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยสู่แดนลบ ทำให้หนุนค่าเงินยูโรขึ้นมาได้เล็กน้อย
ทั้งนี้นายดรากิจะมีการแถลงในวันนี้เช่นกันเวลา 16.30 น. และอีซีบีจะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 5 ธ.ค.
เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟได้กล่าวว่าการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในแถบเอเชียนั้นจะได้รับแรงกระทบหากการลด QE นั้นเริ่มลดลง ซึ่งประเทศที่กำลังพัฒนานั้นยังคงต้องเม็ดเงินที่จะหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและอีกทั้งกำลังสร้างตลาดใหม่เพื่อลดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งทางแถบเอเชียคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ระดับ 6.25%-6.5% สำหรับปีนี้และปีหน้า
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้ตลาดพุ่งขึ้นด้วย
ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น โดยนิกเกอิทะยานขึ้นเหนือระดับ 15,500 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคักหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้
SET ยังมีปัจจัยการเมืองกดดันอยู่ ทำให้ขณะนี้เกิดความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจและเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะการยกระดับการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.นี้จะต้องจับตาว่ามีผู้เข้าร่วมมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งปัจจัยในประเทศดังกล่าวคงทำให้นักลงทุนต่างชาติลดการลงทุนไปสักระยะ
ล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2557 ลงเหลือโตร้อยละ 4.2 ขณะที่ปรับเพิ่มของฟิลิปปินส์ จีน และอินเดีย
พรรคเพื่อไทยนำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้ออกแถลงการณ์ เหตุผล 9 ข้อ ที่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของส.ว. และเตรียมจะยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับ 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ที่วินิจฉัยว่า ร่างแก้ไข ระน. ฉบับดังกล่าว ขัดต่อ มาตรา 68 ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขจริงที่ออก -0.2%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 344K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 333K ตัวเลขจริงที่ออกมา 323K
- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงที่ออก 0.2%
- Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 52.6 ตัวเลขจริงที่ออก มา 54.3
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 19.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 15.8 ตัวเลขจริงที่ออกมา 6.5
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังมีการปรับตัวย่อลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญ 2 ระดับที่ระดับ 1,275 และ 1,250 เหรียญ ราคาทองคำยังคงโดนกดดันจากแรงเทขาย เนื่องด้วยนักลงทุนคาดการณ์ไว้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯจะกลับมาฟื้นตัวขึ้น และมุมมองของกรรมการเฟดหลายๆคนเริ่มมองเหมือนกัน คือ จะมีการทยอยลด QE ในปีหน้า โดยตัวเลขการขอสวัสดิการการว่างงาน (Unemployment Claims) เมื่อคืนออกมาดีขึ้นมาจากเดิม คือมีคนขอสวัสดิการการว่างงานน้อยลงถึง 21,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มมีการทรงตัวหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ โดยเมื่อวานนี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 1,240 -1,245 เหรียญเป็นส่วนใหญ่ MTS Gold คาดว่าราคาอาจจะมีการหลุดเร็วๆนี้ เพื่อไปทดสอบที่ระดับแนวรับถัดไปที่ประมาณ 1,210-1,230 เหรียญ ในเชิง Technical รูปแบบ Head and Shoulder เริ่มฟอร์มเป็นรูปที่สมบูรณ์ และดูเหมือนกับว่าราคาจะเริ่มเคลื่อนตัวลงไปในทิศทางขาลง วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,230-1,255 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังไม่แนะนำนักลงทุนทำกำไรโดยการช้อนซื้อ แต่แนะนำให้เก็งกำไรในการทยอยเปิด Short เมื่อราคารีบาวด์ และมาซื้อคืนกลับที่แนวรับระดับประมาณ 1,234 เหรียญ
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะในการลดสถานะ หรือทำ Stop Loss ออกไปเมื่อราคาดีดตัวบริเวณแนวต้าน
-นักลงทุนที่ถือ Short Position
รอจังหวะปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,230-1,235 เหรียญ ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,960 บาท
Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง