(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น.ของวันที่ 22/11/13)
แนวโน้มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
คณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง14 ต่อ 8 เสียง ให้ความเห็นชอบต่อนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ในลำดับต่อไป โดยจะมีการส่งรายชื่อนางเยลเลนเข้าสู่การ พิจารณาของวุฒิสภาทั้งคณะ ซึ่งหากได้รับการรับรอง หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ หมดวาระการดำรงตำแหน่งลงในวันที่ 31 มกราคม 2014 นางเจเน็ต เยลเลน จะดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนต่อไปได้ส่งผลเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำเพราะเธอมีแนวความคิดสนับสนุนมาตรการผ่อนคลานเชิงปริมาณ หรือ QE อย่างไรก็ตามราคาทองคำเคลื่อนในระดับต่ำหลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะสามารถเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ในเร็วๆนี้ ประกอบกับข้อมูลของสหรัฐออกมาได้ส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนนี้ แต่แรงกดดันในทองคำลดลง เมื่อนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ได้ปฏิเสธรายงานของสื่อที่ว่า อีซีบีกำลังพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 0% ประกอบกับ ข้อมูลที่สดใสของทั้งเยอรมนีหนุนสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ ทั้งนี้ ผลสำรวจที่พบว่า ภาคเอกชนของเยอรมนีขยายตัวในเดือนพฤศจิกายน และการพุ่งขึ้นของอุปสงค์ในประเทศ นำโดยการลงทุนและงบรายจ่ายด้านการก่อสร้างที่พุ่งขึ้นนั้น ช่วยให้เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัวในไตรมาส 3 เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,252-1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,232-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ในส่วนนักลงทุนระยะยาวคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%
แนวรับ 1,232 (18,540บาท) 1,220 (18,360บาท) 1,210 (18,210บาท)
แนวต้าน 1,252 (18,840บาท) 1,262 (18,990บาท) 1,272 (19,150บาท)
GOLD FUTURES (GFZ13)
แนวรับ 1,232 (18,750บาท) 1,220 (18,540บาท) 1,210 (18,390บาท)
แนวต้าน 1,252 (19,030บาท) 1,262 (19,180บาท) 1,272 (19,330บาท)
SILVER FUTURES (SVZ13)
แนวรับ 19.70 (656 บาท) 19.45 (648 บาท) 19.10 (637 บาท)
แนวต้าน 20.25 (674 บาท) 20.50 (681 บาท) 20.90 (694 บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888