นายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MATCH ผู้ประกอบธุรกิจผลิตคอนเทนท์ครบวงจรเปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินงานปี 2556 มีรายได้รวม 672.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11.22 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดําเนินงานของปีก่อน ส่งผลให้มีผลกําไรสุทธิอยู่ที่ 77.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 32.97 เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้ให้เช่าอุปกรณ์การถ่ายทำภาพยนตร์และธุรกิจรายการโทรทัศน์ที่เติบโตสูงขึ้นถึง 35% ซึ่งเป็นไปตามอุตสาหกรรมด้านสื่อสารมวลชนที่กำลังได้รับความสนใจเพราะมีการปรับเปลี่ยนไปสู่การเป็นดิจิตอล
ส่งผล MATCH ณ สิ้นปี 2556 มีสินทรัพย์รวม 1,352.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 770.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 132.35 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในระหว่างปีบริษัทได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปทําให้บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเพิ่มเป็น 12.42 เท่า ซึ่งเงินดังกล่าวมีแผนจะนำไปสร้างสตูดิโอเมืองถ่ายหนังครบวงจร โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2559 และหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้รายได้จากค่าเช่าสตูดิโอและรายได้จากค่าเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2557 บริษัทได้เป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 20-25% แม้ว่าในปีนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจจะลดลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ภาพโดยรวมยังสามารถเติบโตได้ และคาดว่าธุรกิจจะคึกคักมากในครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจหลักของ MATCH ทั้งด้านการผลิตรายการก็มีปัจจัยบวกเข้ามา โดยในส่วนการการผลิตรายการคาดว่าจะได้รับการเพิ่มเวลาจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง7 อีก 2 รายการ จากเดิมที่มี 4 รายการ ประกอบด้วย รายการปลดหนี้, รายการปลดหนี้ วันหยุดนักขัตฤกษ์, รายการคบเด็กสร้างบ้าน และรายการตลบหลังตลาดสำหรับธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์การถ่ายทำภาพยนตร์ ขณะนี้มียอดจองเข้ามาเต็ม 100% ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเติบโตของดิจิตอลทีวี
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่าในปีนี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายงานเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำไปยังภูมิภาคอาเซียน รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยจะเริ่มที่ประเทศพม่าก่อน และคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2557 ส่วนการดำเนินธุรกิจภายในประเทศได้เข้าไปเจรจาในการเป็นผู้ผลิตเนื้อหารายการเพื่อป้อนให้กับทีวีช่องอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก รวมทั้งบริษัทยังสามารถรับงานผลิตละครต่อจากผู้จัดละคร หรือการผลิตรายการสารคดี เพื่อเสริมรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย