นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวว่า จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่ส่งผลให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นที่อาจทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง เป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ดังนั้น บริษัทจึงเฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อหนี้เสียนี้อย่างใกล้ชิดพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าเมื่อตรวจพบสัญญาณการผ่อนชำระที่ผิดปกติ ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้า และช่วยลูกค้าบริหารจัดการหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการบริหารความเสี่ยง ทั้งการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้และวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมก่อนการอนุมัติ การปรับเพิ่มรายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์จากเดิม 8,000 บาทขึ้นเป็น 10,000 บาท การเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโร และเพิ่มจำนวนพนักงานติดตามทวงถามหนี้ โดยเชื่อมั่นว่าการติดตามหนี้และแก้ไขปัญหาหนี้เป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องอำนวยสินเชื่อแบบรับผิดชอบ (Responsible Lending) และให้ความรู้แก่ประชาชน คนวัยทำงาน และนักศึกษา เกี่ยวกับข้อควรรู้ก่อนเข้าสู่การเป็นหนี้และวินัยทางการเงิน
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2557 บริษัทจะเน้นการร่วมมือและเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราในการพัฒนาสินค้า บริการ และกิจกรรมการตลาดที่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซ็กเม้นท์ พร้อมขยายช่องทางการให้บริการ โดยจะพัฒนาเคาน์เตอร์บริการที่เดิมเป็นเพียงจุดรับสมัครสมาชิกบัตรใหม่ขยายเป็นจุดให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร พร้อมนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง ในขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ DigitaLife ของคนในปัจจุบัน อาทิ การชำระสินค้าช่องทางออนไลน์ (online shopping) ผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี หรือการสร้างอี-มาร์เก็ตเพลส (E-Market Place) โดยการเปิด Web Portal ให้เป็นชุมชนสำหรับการซื้อ ขาย หรือผ่อนชำระสินค้าออนไลน์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 120 รายจัดงาน กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เอ็กซ์โป ที่เป็นมหกรรมสินค้าผ่อน 0% ทุกชิ้นทั้งงานในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือนสำหรับบัตรเครดิตและสูงสุด 15 เดือนสำหรับบัตรผ่อนชำระใน 5 จังหวัดใหญ่ทั่วทุกภาคของประเทศทั้งที่หาดใหญ่ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งการจัดแคมเปญการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรให้คุ้มค่ามากขึ้นในหมวดอาหาร ท่องเที่ยว และซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ การรับคะแนนสะสม 5 เท่าเมื่อซื้อบัตรโดยสารนกแอร์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8% เมื่อเติมน้ำมัน 1,000 บาทขึ้นไปทุกปั๊มโดยต้องมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข รับเครดิตเงินคืน 8% เมื่อใช้จ่ายด้วยเซ็นทรัลเครดิตคาร์ดในหมวดโรงแรมทั่วไทยครบทุก 8,000 บาทต่อใบเสร็จ หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8% เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วไทยครบทุก 1,000 บาทต่อใบเสร็จ เป็นต้น
“ถึงแม้ปี 2557 จะมีปัจจัยที่ท้าทายให้การใช้จ่ายภายในประเทศชะลอตัวลง แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจของบริษัทจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายมีจำนวนลูกค้ารวม 7.12 ล้านบัญชี มียอดใช้จ่ายรวม 3 แสนล้านบาท มียอดสินเชื่อรวม 1.25 แสนล้านบาท” นายฐากรกล่าวในที่สุด