"เซนไฮเซอร์" เพิ่มยอดขายฝั่งเอเชียแปซิฟิก โตถึง 6%

อาทิตย์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๓:๒๕
เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ปี 2556 เพิ่มยอดขาย ฝั่งเอเชีย แปซิฟิก โตถึง 6% ขยายลงทุนทั้งด้านการวิจัยและนวัตกรรมใหม่ กลุ่มเซนไฮเซอร์ (Sennheiser group) เป็นธุรกิจครอบครัวที่เติบโตมากว่าสามชั่วอายุคน ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับปี 2556 ดังนี้ บริษัทได้วางแผนการดำเนินงานทางธุรกิจโดยเน้นการวางกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีอิสระในการทำงาน สำหรับงบการเงินของปี 2556 แสดงรายได้อยู่ในเกณฑ์คงที่ในขณะผลตอบแทนจากยอดขาย อยู่ที่ตัวเลขหลักเดียวกลางๆ กำไรของเซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ทั้งกลุ่มปีที่แล้วอยู่ที่ 637.6 ล้านบาท หรือ14.3 ล้านยูโร ซึ่งลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากสองปีก่อนหน้า “ถึงแม้ว่าเราจะเป็นธุรกิจแบบครอบครัว เราก็มุ่งดำเนินธุรกิจตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ ซึ่งหมายความว่าอาจมีบางปีที่เราจะยอมรับกำไรน้อยเพื่อจะเห็นความสำเร็จในระยะยาว" ปี 2556 เป็นอีกปีที่บริษัทฯลงทุนอย่างมากในการและวิจัย และในการขยายเครือข่ายการขายทั่วโลก รวมถึงการจ้างบุคลากรที่เพิ่มขึ้น 9.1% คิดเป็นจำนวน 2,542 คน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นภาระในปีที่ผ่านมา ในปี 2556 ค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นกว่า 3% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ"

ดร.อันเดรียส์ เซนไฮเซอร์ (Dr. Andreas Sennheiser) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "อัตราการส่งออกของเราพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 85 ซึ่งผมอยากบอกว่า ลูกค้าทั่วโลกให้การการยอมรับในรูปแบบและคุณภาพของสินค้าเซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อราคาทั้งนั้น"

เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) มีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในทุกภูมิภาค: ผู้นำตลาดยุโรปในปี 2556 และยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยอดขายของกลุ่มเซนไฮเซอร์ (Sennheiser group) โตขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์หรือเท่ากับ 26,330.4 ล้านบาท หรือ 590.5 ล้านยูโรในปี 2556 ซึ่งถ้ารวมการปรับค่าอัตราแลกเปลี่ยนของ 606.9 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 3.9 เปอร์เซ็นต์ ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกมีการเติบโตที่สุด ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดขายแตะ 4,459 ล้านบาท หรือ 100 ล้านยูโรเป็นครั้งแรก (100.3, 2013:95.0) อเมริกาเหนือและใต้ยังคงมียอดขายคงเดิมที่ 6,559.1 ล้านบาท หรือ 147.1 ล้านยูโร (2013:146.5), ในขณะที่ยุโรปยังเป็นภูมิภาคที่ทำรายได้สูงที่สุดของกลุ่ม โดยมียอดขายคงที่อยู่ที่ 152,542.3 ล้านบาท หรือ 342.1 ล้านยูโร(2013:342.9) นอกจากนี้ตามที่ได้รายงานไปแล้วถึงการลงทุนของเซนไฮเซอร์ (Sennheiser) เพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีการลงทุนในส่วนเครือข่ายการขาย และการเปิดสำนักงานขายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

เมื่อมาดูยอดขายแบ่งตามหน่วยงานธุรกิจจะเห็นว่า ส่วนธุรกิจสินค้ากลุ่มเครื่องไฟฟ้าคอนซูเมอร์มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดขายเพิ่มกว่า 4 เปอร์เซนต์หรือเท่ากับ 13,399.2 ล้านบาท หรือ 300.5 ล้านยูโรเป็น เซนไฮเซอร์(Sennheiser) ต้องชื่นชมตัวเองในการจัดการวางตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจน คือออดิโอคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด และการบริการลูกค้าอย่างดีเยื่ยม ในสภาพแวดล้อมที่มีจำนวนคู่แข่งมากมาย สินค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์สามารถทำรายได้กว่าครึ่งให้กับเซนไฮเซอร์(Sennheiser) ในปีที่ผ่านมา

ส่วนสินค้ากลุ่มระบบอินทิเกรต (Integrated system) มีการเติบโตแบบคงที่อยู่ที่ 2 เปอร์เซนต์เท่ากับ 4,133.4 ล้านบาท หรือ 92.7 ล้านยูโร ในขณะที่สินค้าสำหรับโปรเฟสชั่นแนลมียอดขายอยู่ที่ 8,793.1 ล้านบาท หรือ 197.2 ล้านยูโร คิดเป็น 33 เปอร์เซนต์ขอรายได้รวม กลุ่มเซนไฮเซอร์ (Sennheiser group) ยังคงมองในทางบวกกับสัดส่วนรายได้การดำเนินงานทางธุรกิจ

การลงทุน ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ

เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ยังจะขยายงานด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในในการดำเนินงานที่สูงถึง 1,810.3 ล้านบาท หรือ 40.6 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 93.6 ล้านบาท หรือ 2.1 ล้านยูโร มีจำนวนพนักงานในส่วนงานวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นถึง 12 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมีพนักงานรวม 323 คน "พนักงานด้านวิจัยและพัฒนา มีสัดส่วนถึงหนึ่งในแปดของพนักงานของเรา” แดเนียล เซนไฮเซอร์ กล่าว "นี่คือหลักฐานที่แสดงถึงความตั้งใจที่จะพัฒนา นวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง"

กลุ่มเซนไฮเซอร์(Sennheiser group) มีพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 หรือเท่ากับ 2,542 คน พนักงานจำนวน 1,303 คน (ร้อยละ 51) อยู่ในประเทศเยอรมนี และ 1,239 คน(ร้อยละ 49) อยู่ในต่างประเทศ ในปีนี้ จะเปิดแคมปัสด้านนวัตกรรมภายในศูนย์พัฒนาและนวัตกรรมใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯอยู่ในเมือง wedemark ตอนเหนือของเยอรมัน มหาวิทยาลัยจะเปิดโอกาสในการให้ทำงานร่วมกันในรูปแบบใหม่ ๆ "มหาวิทยาลัยนวัตกรรม คือความมุ่งมั่นของเราภายใต้แผนกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและการทำงานอย่างเป็นอิสระ" แอนเดรียส เซนไฮเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "และหลักสูตรนี้จัดทำขึ้น โดยให้ความสำคัญในด้านนวัตกรรมที่มีลูกค้าเป็นตัวตั้ง"

สนันสนุนการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน

เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ได้ก้าวเดินครั้งสำคัญที่จะปกป้องทรัพยากรส่วนรวม โดยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ phonebloks ได้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสมาร์ทโฟนแบบโมดูล คือส่วนประกอบของโทรศัพท์สามารถสลับสับเปลี่ยนเฉพาะส่วนได้ ด้วยวิธีคิดนี้สมาร์ทโฟนจะมีอายุการใช้งานของระบบโดยรวมนานขึ้น และจะช่วยป้องกันรักษาทรัพยากรของโลก” แดเนียล เซนไฮเซอร์ กล่าว

เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) เริ่มมีการพัฒนาโมดูลระบบเสียงสำหรับระบบใหม่นี้ เราสามารถที่จะจินตนาการถึงอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ซึ่งจะเปลื่ยนสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ทำงานสำหรับนักข่าวในทุกที่ ตัวเลือกอื่นอาจจะเป็นการเปิดสตรีมใหม่ของเทคโนโลยี การพัฒนาโครงการ phonebloks ไม่ว่าจะกรณีใด เราจะต้องทำให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนในอนาคตจะโดดเด่นไปด้วยพลังเสียงที่สมบูรณ์แบบ"แนวโน้มของเทคโนโลยีใหม่เพื่ออำนวยความสะดวก

เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) เปิดตัวอุปกรณ์ที่จะเป็นสตรีมเทคโนโลยี ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการแต่ละคน สามารถเพลิดเพลินใจไปกับงานศิลปะโดยไม่คำนึงถึง ภาษา หรือการได้ยินหรือความสามารถในการเห็น แอปพลิเคชันใหม่นี้สามารถรวมเข้ากับระบบที่มีอยู่ การทำงานของแอปพลิเคชันจะมีคำอธิบายเสียงและรับฟังเสียงในแบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟนของผู้ใช้

เป้าหมายปี 2557

เป้าหมายปี 2557 บริษัทให้ความสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน เซนไฮเซอร์ (Sennheiser) เป็นบริษัทรูปแบบครอบครัวที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวและการสร้านวัตกรรมใหม่ให้กับระบบเสียง เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ฟัง วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างอนาคตของระบบเสียง และนี้เป็นประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ทอดตัวไปเกือบ 70 ปี วัฒนธรรม นวัตกรรมที่มีเครื่องหมายจากความรักในความเป็นเลิศ" ผู้บริหารทั้สองคน คือ แอนเดรียส และ แดเนียล เซนไฮเซอร์ มั่นใจว่า “เซนไฮเซอร์ (Sennheiser)ได้วางตำแหน่งทางการค้าอย่างดี ในการที่จะสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า และจะธุรกิจเติบโตทั้งยอดขายและผลกำไร

เกี่ยวกับเซนไฮเซอร์

สำนักงานใหญ่ของ กลุ่มเซนไฮเซอร์ ตั้งอยู่ที่ wedemark ใกล้กับ Hanover ประเทศเยอรมนีรก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2488 และได้กลายเป็นการผลิตชุดหูฟังและไมโครโฟนระบบการส่งสัญญาณไร้สายระดับโลก ในปี 2556 บริษัทมียอดขายรวมา 26,325.9 ล้านบาท หรือ 590.4 ล้านยูโร บริษัทมีพนักงานมากกว่า 2,542 ทั่วโลกและมีโรงงานในเยอรมนี ไอร์แลนด์เหนือ และสหรัฐอเมริกา บริษัทที่มีเครือข่ายทั่วโลกในประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวิสต์เซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ที่เยอรมนี เดนมาร์ก(นอร์ดิก) รัสเซีย

ฮ่องกง อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นอกจากนั้นยังมีคู่ค้าระยะยาวที่สร้างขึ้นในประเทศอื่นๆ อาทิ Neumann GmbH ผู้ผลิตไมโครโฟนใช้ในสตูดิโอ และสำหรับมอนิเตอร์ในกรุงเบอร์ลิน และ Sennheiser A/S คือบริษัทร่วมทุนผลิตชุดหูฟังสำหรับเครื่องซีพี ใช้กับงานสำนักงานและ คอลเซ็นเตอร์

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนไฮเซอร์ (Sennheiser) ที่ www.sennheiser.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest