นางสาวณญาณี เผือกขำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ กล่าวว่า เราเริ่มมีเฟสบุ๊คกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ (Krungsri First Choice) เมื่อต้นปี 2555 โดยในปีแรกเรามีแฟนเพจอยู่ประมาณ 9,000 คน เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 คน และปัจจุบันจำนวนแฟนเพจเพิ่มแบบก้าวกระโดดเป็น 360,000 คน โดยแฟนเพจเหล่านี้ 50% เป็นลูกค้าของเรา ในขณะที่อีก 50% ต้องการที่จะเป็นลูกค้าของเรา
สำหรับเครื่องมือในการวัดผลสำเร็จ บริษัทไม่ได้วัดจากอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนแฟนเพจเพียงอย่างเดียว แต่จะวัดจำนวนแฟนเพจที่เข้ามากดไลค์ แสดงความคิดเห็น แชร์ข้อมูล และร่วมกิจกรรมที่เราจัดขึ้น รวมทั้งสิ่งที่เขาพูดถึงเราหรือทัศนคติที่มีต่อเราด้วย
“สิ่งที่สำคัญของผลสำเร็จคือเราต้องสามารถเปลี่ยนยอดไลค์เป็นยอดขายด้วย คือ engage แล้ว convert มาเป็น sell ดังนั้น เฟสบุ๊คของเราจึงต้องเชื่อมโยงข้อมูลไปที่เว็บไซด์ www.firstchoice.co.th รวมทั้งยูทูบ เพื่อที่แฟนเพจที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าจะสามารถลิงค์เข้าเว็บไซด์ไปสมัครบัตรได้ หรือแฟนเพจที่เป็นสมาชิกบัตรเราแล้วก็สามารถลิงค์เข้าไปดูแคมเปญโปรโมชั่นของหมวดสินค้าต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่าย หรือแลกคะแนนสะสม ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้น”
สำหรับเนื้อหาที่นำเสนอบนเฟสบุ๊ค จะสอดคล้องกับความสนใจของคนทั่วไป อาทิ ข้อคิดคำคมต่างๆ เคล็ดลับในการทำงานและการดำเนินชีวิต หลักในการบริหารเงิน เทคโนโลยีและ gadget ใหม่ๆในตลาด โปรโมชั่นและบริการของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ที่มีใน gadget นั้นๆ เป็นต้น โดยสัดส่วนเนื้อหาของแคมเปญการตลาด : เรื่องราวที่คนสนใจ = 20 : 80 โดยบริษัทจะมีเรื่องราวใหม่ๆนำเสนอทุกวันๆละ 5-6 เรื่อง
“ภายในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายจะต้องเติบโต 20% ในทุกด้าน ทั้งจำนวนแฟนเพจ จำนวนคนที่เข้ามากดไลค์และร่วมกิจกรรม จำนวนสมาชิกบัตรใหม่ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถทีมงานอย่างมาก”
Thailand’s Most Social Power Brand 2014 เป็นการจัดอันดับแบรนด์ที่คนนิยมและผูกพันในสังคมออนไลน์ประเภทเฟสบุ๊ค ที่เป็นโซเชียลมีเดียที่หน่วยงานต่างๆและผู้บริโภคนิยมใช้มากที่สุด และสามารถวัดผลได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพได้อย่างชัดเจนที่สุด จัดทำโดยนิตยสารแบรนด์เอจ ซึ่งเป็นนิตยสารการตลาดชั้นนำของไทย และบริษัท Zocial, Inc ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและจัดอันดับข้อมูลทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย โดยดำเนินการรวบรวมสถิติข้อมูลบนสื่อออนไลน์ในระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2557 ผ่านหลักเกณฑ์การวัดผลจาก 1. Like จำนวนคนกดไลค์เพื่อติดตามข้อมูล 2. Talking About This ค่าปฏิสัมพันธ์ของแฟนเพจในช่วงเวลา 7 วัน 3. Average Growth 3 Months อัตราการเติบโตของแฟนเพจที่เข้ามากดไลค์โดยเฉลี่ยในระยะเวลา 3 เดือน 4. Engagement ค่าปฏิสัมพันธ์ของผู้ติดตามที่มีต่อเพจ โดยจะคำนวณจากจำนวนกดไลค์ แสดงความคิดเห็น และแบ่งปันข้อมูลรวมกัน 5. Time Engagement ช่วงเวลาของการโพสต์ข้อความบนเพจ แล้วมีค่าปฏิสัมพันธ์สูงสุด 6. Engagement/Day ค่าปฏิสัมพันธ์ของผู้ติดตามเพจเฉลี่ยต่อวัน