ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 303 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,995 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50บาท เพิ่มขึ้น 0.75% แบบ 10 บาท ลดลง 0.21% GFQ14 ปิด 19,670 บาท และ GFV14 ปิด 19,730 บาท GF10Q14 ปิดที่19,670 บาท GF10V14 ปิดที่ 19,740 บาท
สัญญา Comex ลดลง 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,296.7 ดอลลาร์/ออนซ์
NYMEX ลดลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 94.48 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ซื้อเข้า 1.5 ตัน ถือครองทองคำที่ระดับ 799.19 ตัน
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำยังคงปิดต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นดาวโจนส์ หลังจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงส่งผลให้นักลงทุนทำการเทขายสัญญาทองคำ
-นอกจากนี้ ทองคำยังขาดปัจจัยสนับสนุนหลังจากที่สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนและอิรักคลี่คลายลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
-นักลงทุนในตลาดยังคงระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากรอรายงานการประชุมเฟดครั้งล่าสุดที่จะเปิดเผยในคืนนี้เวลาตี 1 รวมถึงการแถลงการณ์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งอาจมีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางนโยบายการเงินในอนาคต รวมถึงการเพิ่มการควบคุมอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น
-นอกจากนี้นักลงทุนยังรอผลการประชุมธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้นักลงทุนให้ความสนใจไปยังการแสดงความคิดเห็นของ นางเยลเลน ประธานเฟด และ นายดรากี้ ประธานอีซีบี
-SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อีก 1.5 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 799.19 ตัน
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3319 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3360 ดอลลาร์/ยูโร ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 15.7% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น
-ขณะที่การอนุญาตก่อสร้างบ้านก็ปรับตัวสูงขึ้น 8.1% สู่ระดับ 1.05 ล้านยูนิต ถือเป็นการปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา
-ถึงแม้ว่าข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯประจำเดือนกรกฎาคมฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ระดับ 0.1% จากระดับ 0.3% ซึ่งข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดอาจส่งผลให้เฟดยังคงนโยบายการเงินและตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อไป
-นักเศรษฐศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า ตัวเลขเงินเฟ้อมีการฟื้นตัวดีขึ้นแต่ก็ยังไม่มากพอให้เฟดต้องรีบปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
-ทางด้านของอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนกรกฎาคมของอังกฤษ ปรับตัวลดลง 1.6% จาก 1.9% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอังกฤษยังคงฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
-อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางอังกฤษก็ยังคงตัดสินใจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0.5% ในการประชุมเดือนสิงหาคม และไม่รีบใช้นโยบายในการควบคุมเงินเฟ้อ เนื่องจากรายได้ของธนาคารกลางอังกฤษยังคงซบเซา และเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2%
-วิกฤตการณ์ในยูเครนคลี่คลายลง หลังจากที่ นายปูติน ผู้นำรัสเซีย จะเข้าพบกับ นายโปรเชนโก ผู้นำยูเครน ที่เมืองเบรารุสในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ข้อตกลงหยุดยิง 24 ชม. ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ล้มเหลว หลังอิสราเอลถูกยิงด้วยจรวดจำนวน 4 ลูก โดยมีวิถีการยิงจากบริเวณฉนวนกาซาเข้าสู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ส่งผลให้อิสราเอลกลับมาโจมตีไปยังฉนวนกาซาอีกครั้ง
-ขณะที่กลุ่มฮามาสออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นฝ่ายยิงจรวดจำนวน 4 ลูกจากฉนวนกาซาเพื่อโจมตีอิสราเอล แต่อิสราเอลต้องการสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้นเพื่อล้มเลิกการเจรจา และอิสราเอลต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผลที่จะตามมาต่อจากนี้
-สำนักข่าว CNN รายงานว่า กลุ่มไอซิส (ISIS) เผยแพร่คลิปวิดีโอฆ่าตัดหัวนักข่าวสหรัฐฯ พร้อมข่มขู่ว่าจะฆ่านักข่าวอีกคนที่กุมตัวไว้ หาก นายโอบามา ผู้นำสหรัฐฯไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในอิรัก ขณะเดียวกันสหรัฐฯกำลังตรวจสอบว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นของจริงหรือการตัดต่อ
-ธนาคารกลางจีน มียอดหนี้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยปรับตัวสูงขึ้น 116% สู่ระดับ 1.27 หมื่นล้านหยวน (2.1 พันล้านดอลลาร์ฯ) หลังจากผลกำไรชะลอตัวลงมากที่สุดในไตรมาสที่ 5 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอลง
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ยังคงปิดในแดนบวก โดยปรับตัวสูงขึ้น 0.48% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากรายงานภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯที่ดีที่สุดในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ตลาดยังตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท โฮม ดี โปต์
-ดัชนีนิเกอิ เปิดตลาดสูงขึ้น +0.23% เพราะได้รับแรงหนุนของตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปิดสูงขึ้นเมื่อคืนนี้
-นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.80 – 32.00 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ การประชุม สนช. ในวันที่ 21 ส.ค. และการประชุมประจำปีของธนาคารกลางทั่วโลกในสัปดาห์นี้
-นักวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นว่า ตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวสร้างฐานรอปัจจัยใหม่ๆ โดยภาพรวมในระยะกลางประเมินว่าตลาดกำลังรอผลการจัดตั้งรัฐบาลและการใช้งบประมาณในประเทศ
-รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2557 ของไทย พบว่า ปรับตัวสูงขึ้น 20.62% โดยบริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 203,710 ล้านบาท และยอดขายรวมปรับสูงขึ้น 7.69% ที่ระดับ 2,849,436 ล้านบาท
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.97M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.05M
- CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1ตัวเลขจริงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.95M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.09M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- FOMC Meeting Minutes
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุด 1,300 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ตลาดเริ่มเห็นว่ายูเครนเริ่มมีความสงบมากขึ้นและตะวันออกกลางก็ไม่มีความรุนแรงใดๆเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจทางฝั่งยูโรโซนไม่ค่อยดีนัก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร เงินบาทอ่อนตัวลงบ้างเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 31.90 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน โดยภาพรวมการสร้างบ้านดูดีขึ้น นั่นหมายถึงสภาพเศรษฐกิจที่ค่อยๆเริ่มฟื้นตัว ในขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อต่างๆยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ควบคุมได้ และเมื่อวานนี้ SPDR เพิ่มการถือครองทองคำ 1.5 ตัน ถือครองทองคำที่ระดับ 799.19 ตัน สำหรับคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ แต่ตลาดจับตารายงานการประชุมเฟดในช่วงเวลาตี 1
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาลง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยที่วันนี้คาดว่าราคาจะแกว่งในกรอบ 1,290 – 1,300 เหรียญ ถ้าราคาหลุดระดับแนวรับ ก็มีโอกาสจะหลุดไปที่บริเวณ 1,280 เหรียญซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมเมื่อเดือนที่แล้ว
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำให้เล่นตามการแกว่งขึ้นลงของตลาดในระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ปิดสถานะ Long หรือทำ Stop Loss ลดสถานะลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ค่อยๆสะสมเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น และทำกำไรเป็นระยะสั้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้นักลงทุนปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ และเปิดสถานะ Short เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,770 บาท
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,830 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง