สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 3 กันยายน 2557 เวลา 9.00 น.

พุธ ๐๓ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๐:๐๗
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,281 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,265 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.13 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500 บาท และกลับมาปิดที่ 19,350บาท กับ19,450 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 500 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 2,981 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 12.01% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 15.69% GFV14 ปิด 19,420 บาท และ GFZ14 ปิด 19,480 บาท GF10V14 ปิดที่19,420 บาท GF10Z14 ปิดที่ 19,480 บาท

สัญญา Comex ลดลง 22.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,265 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 3.08 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 92.88 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 793.2 ตัน (ขายออก 1.8 ตัน)

ข่าวที่สำคัญ

ทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และการเทขายของนักลงทุน หลังจากที่ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนและตะวันออกกลางเจือจางลงไป

เมื่อวานนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง 1.7% และไปทำจุดต่ำสุด 1,262.42 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน

นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยลบต่อทองคำ เนื่องจากจะเป็นข้อมูลสนับสนุนให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

นักวิเคราะห์จาก HSBC กล่าวว่า ค่าเฉลี่ยของราคาทองคำในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,292 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่ปี 2015 และ 2016 คาดว่าราคาทองคำจะกลับมาฟื้นตัวได้สู่ระดับเฉลี่ย 1,310 และ 1,345 เหรียญ/ออนซ์

นักลงทุนจับตาไปยังการประชุมของอีซีบีในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้ถึงการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

โดยนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่า อีซีบีอาจจะประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน (QE) เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน

SPDR เทขายทองคำออก 1.8 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 793.20 ตัน

สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ประจำเดือน สิงหาคม ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 59 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 และถือเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15

ขณะที่การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในสหรัฐฯประจำเดือนกรกฎาคม ปรับตัวสูงขึ้น 1.8% สู่ระดับ 9.813 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2012 เพราะได้รับแรงหนุนจากการสร้างบ้านและภาคก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เพราะได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการณ์คาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3126 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3130 ดอลลาร์/ยูโร

OECD รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อใน 34 ประเทศสมาชิกเศรษฐกิจทั่วโลกปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.9% ในเดือนกรกฎาคม จากเดิม 2.1% ในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอมากขึ้น จึงส่งผลกดดันกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ในทิศทางขาลง

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการก่อสร้างบ้านของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 64 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน อาจช่วยหนุนให้ BOE ตัดสินใจพิจารณาเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ได้ (เวลาประมาณ 18.00น.)

นักลงทุนในตลาดการลงทุนต่างๆ จับตาไปยังความสถานการณ์ในยูเครน หลังจากที่ นายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเตือนไปยัง นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียโดยตรงเกี่ยวกับพันธกิจทางทหารที่จะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศพันธมิตรขององค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า ชาติพันธมิตรของยูเครนพยายามเติมเชื้อไฟเพื่อเพิ่มความขัดแย้งให้มากยิ่งขึ้น และควรที่จะกลับมาพูดคุยเรื่องการสงบศึกกันมากกว่า ถึงแม้ว่าผู้นำรัสเซีย จะเล็งเห็นว่าทหารของตนสามารถจะเข้ายึดยูเครนได้ก็ตาม

ขณะเดียวกันรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนออกมาตอบโต้ว่า กระทรวงกลาโหมได้เตรียมความพร้อมเต็มรูปแบบเพื่อต่อกรกับการรุกรานของรัสเซีย

อย่างไรก็ดี อียูกำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการควบคุมการขายหนี้(debt sales) และการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยคณะกรรมาธิการยุโรปให้ระบุว่าจะเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากรัสเซียให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของยูเครน

ทั้งนี้ นางอังเกลา แมร์เคล ผู้นำเยอรมัน กล่าวว่า เยอรมนีพร้อมเผชิญหน้ากับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

รายงานจาก CNN ล่าสุด ระบุว่า นายโอบามา อนุมัติให้ส่งทหาร 300 กองพล เข้าไปในอิรักเพื่อปกป้องป้องประชาชนชาวอเมริกา

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในยูเครนจะกลับมาตึงเครียดเพิ่มขึ้น

เช้านี้ ดัชนีนิเกอิ เปิด +0.82% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่กรอบ 105 เยน/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.05-32.20 บาท/ดอลลาร์ และยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์ หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า ECB จะออกมาตรการ QE

9 กันยายนนี้ นายประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้าทำเนียบเป็นครั้งแรกและนัดประชุม ครม. เพื่อแบ่งงาน โดยอาจจะมีการลดบทบาท คสช. และผ่อนคลายกฎอัยการศึก

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 57.1 ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.0

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้

-Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.9%

-Beige Book

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ 1280 เหรียญลงมา จากความกังวลที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ ISM Manufacturing PMI ดีขึ้นกว่าที่คาดอย่างมากในรอบ 2 ปี มาอยู่ที่ระดับ 59 ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เองแข็งค่าขึ้นเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 1.3126 ดอลลาร์/ยูโร ทองคำเกิดแรงเทขายอย่างหนัก ขณะที่เมือวานนี้ SPDR เทขายทองคำออกมา 1.8 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองที่ระดับ 793.2 ตัน จึงกดดันให้ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,262 เหรียญโดยประมาณ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้ได้แก่ Factory Orders คาดว่าจะดีขึ้นอย่างมาก

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์กับ MTS Gold มาก่อนหน้านี้ ว่าในระยะกลางกับระยะยาวเป็นขาลง จึงทำให้ราคาทองคำมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,280 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังคงเป็นการเล่นเก็งกำไรตามการแกว่ง ในวันนี้อาจมี Technical Rebound ซึ่งทองคำจะมีแนวต้านแรก 1,270 เหรียญ อย่างไรก็ดียังคงแนะนำให้เล่นเก็งกำไรในทิศทางขาลงมากกว่า

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ควรที่จะลดสถานะ Long Position หรือทำ Stop Loss ตามที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำกำไรเป็นช่วงๆ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปิดสถานะทำกำไรและหาจังหวะเปิด Short Position เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,360 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,560 บาท

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,620 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ประชาสัมพันธ์:

1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “เทคนิคการทำกำไรในทองคำแท่งและGold Futures” บรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ในวันที่ 15 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 29 กันยายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น.

สำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777

2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”

นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ แคสเปอร์สกี้เผย บริษัทมากกว่าครึ่งในเอเชียแปซิฟิกใช้ AI และ IoT ในกระบวนการทางธุรกิจ
๑๗:๑๔ พร้อมจัดงาน สถาปนิก'67 ภายใต้ธีม Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์
๑๗:๓๓ โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นฉลองเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๓๘ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยชาวสระแก้ว มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และเพื่อเป็นที่หลบแดดหลบฝน ณ
๑๗:๔๙ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดพิธีประสาทปริญญาบัตร พร้อมมอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 3 ท่าน
๑๗:๑๘ แน็ก ชาลี - มุก วรนิษฐ์ ชวนเปิดประสบการณ์ความเฟรช ในงาน Space of Freshtival 30 มีนาคมนี้ ที่ สยามสแควร์วัน
๑๗:๑๐ อิมแพ็ค จัดงาน Happy Hours: Wine Tasting Craft Beer ต้อนรับลูกค้าช่วงมอเตอร์โชว์
๑๗:๓๒ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานแพร่ มอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (ชุดเครื่องมือทำมาหากิน) รุ่นที่ 4/2567
๑๗:๕๒ ดีพร้อม ดึงผู้ประกอบการเงินทุนฯ ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ทดสอบตลาด จัดงาน พร้อมเปย์ ที่ DIPROM FAIR
๑๗:๔๕ เขตราชเทวีจัดเทศกิจกวดขันผลักดันผู้ค้าตั้งวางแผงค้ารุกล้ำบนทางเท้าถนนราชปรารภ