ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. อินโดรามา เวนเจอร์ส” ที่ “A+” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

พุธ ๐๑ ตุลาคม ๒๐๑๔ ๑๗:๔๙
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่”

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทอยู่ 2 ระดับ ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะการด้อยสิทธิและผู้ออกตราสารสามารถเลื่อนนัดการชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ได้ รวมถึงไม่มีกำหนดอายุ ซึ่งเข้าเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (Hybrid Securities) ของทริสเรทติ้ง โดยผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นในลำดับต่ำกว่าผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันและเจ้าหนี้สามัญอื่น ๆ ของบริษัท แต่จะมีลำดับสิทธิในการรับชำระหนี้เหนือกว่าผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัท สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้ บริษัทสามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยได้ตามดุลยพินิจ โดยเมื่อบริษัทเลื่อนการชำระดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว บริษัทจะไม่มีสิทธิจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท และดอกเบี้ยที่ค้างชำระจะถูกสะสมและนำมาชำระในภายหลังแต่จะไม่นำมาทบเป็นเงินต้นสำหรับการคิดดอกเบี้ยอีก

จากข้อกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ ทริสเรทติ้งกำหนดให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของ บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส มีระดับความเป็นทุนปานกลาง (Intermediate Equity Content) ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้จะถูกบันทึกจำนวนมูลค่าคงค้างให้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนของผู้ถือหุ้นในงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบแล้วของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินของบริษัท ทริสเรทติ้งจะจัดให้ 50% ของเงินต้นคงค้างของหุ้นกู้เป็นเงินกู้ และให้ 50% ของผลตอบแทนที่ชำระจากหุ้นกู้เป็นดอกเบี้ย สำหรับระดับความเป็นทุนปานกลางนี้จะถูกลดให้มีระดับความเป็นทุนน้อย (0%, Minimal Equity Content) ในวันครบกำหนด 5 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ เนื่องจากอายุคงเหลือจริง (Remaining Effective Maturity) ณ วันดังกล่าวน้อยกว่า 20 ปีตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนของ

ทริสเรทติ้ง แม้ว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้ไม่มีกำหนดอายุ แต่ทริสเรทติ้งพิจารณาว่าอายุคงเหลือจริงของตราสารจะลดลงเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ย (Step Up Interest) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1% จาก Initial Credit Spread ซึ่งในกรณีของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้ กรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อหุ้นกู้ครบกำหนด 25 ปีนับจากวันออก

แม้ว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้จะไม่มีการกำหนดเวลาชำระคืนเงินต้น แต่บริษัทก็มีสิทธิที่จะไถ่ถอนได้ภายหลังจากสิ้นปีที่ 5 นับจากวันออกหุ้นกู้ หรือขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามที่ได้ระบุในข้อกำหนดสิทธิ ฯ นอกจากนี้ บริษัทยังมีสิทธิที่จะซื้อคืนหุ้นกู้ในเวลาใดก็ได้ในตลาดรอง ซึ่งหากบริษัทเลือกที่จะซื้อคืนหุ้นกู้นี้ ส่วนที่เหลือจากการซื้อคืนจะถูกพิจารณาเป็นเงินกู้ทั้งจำนวน

อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส สะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในการเป็นผู้ผลิตในธุรกิจห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ชั้นนำระดับโลก ตลอดจนความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตและการผลิตที่มีประสิทธิภาพจากการมีระบบการผลิตที่ครบวงจร (Vertical Integration) รวมถึงการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัวทั่วโลก ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความสามารถและประสบการณ์ของคณะผู้บริหารรวมทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญของอุตสาหกรรมด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตดังกล่าวมีข้อจำกัดจากลักษณะที่ผันผวนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนอุปทานส่วนเกินจากกำลังการผลิตใหม่ของกรดเทอเรฟธาลลิกบริสุทธิ์ (Purified Terephthalic Acid – PTA) และความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ในขณะที่การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของบริษัทได้ก่อให้เกิดภาระหนี้ในระดับสูงและลดทอนฐานะการเงินของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าอัตรากำไรของอุตสาหกรรมจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นจากระดับปัจจุบัน และบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ รวมถึงรักษาสภาพคล่องที่เพียงพอเพื่อรองรับความผันผวนที่เกิดจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งนี้ หากภาวะขาลงของอุตสาหกรรมยังคงดำเนินต่อไปก็อาจเป็นปัจจัยด้านลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท

บริษัทก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2546 โดยกลุ่มตระกูลโลเฮีย (Lohia) ในฐานะเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 และปัจจุบันกลุ่มตระกูลโลเฮียมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 66.4% บริษัทลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์เป็นหลัก โดย ณ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 7.38 ล้านตันต่อปี โดยประมาณ 50% เป็นกำลังการผลิตของโพลี

เอธิลีน เทอเรฟธาลเลท (Polyethylene Terephthalate – PET) 24% เป็น PTA 19% เป็นกำลังการผลิตเทียบเท่าเส้นใยโพลีเอสเตอร์ และอีก 7% เป็นกำลังการผลิตเทียบเท่าโมโนเอธิลลีนไกลคอล (Monoethylene Glycol – MEG) ในธุรกิจห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์นั้น PTA และ MEG ใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิต PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์

ปัจจุบันบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์สมีฐานการผลิตกระจายอยู่ใน 16 ประเทศ ครอบคลุม 4 ทวีป (เอเซีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอาฟริกา) รูปแบบธุรกิจของบริษัทที่มีการผลิตครบวงจร ตลอดจนการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและบรรเทาความเสี่ยงของภาวะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้ อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตใหม่จากประเทศจีนและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกนั้นสร้างความกังวลต่อภาวะการแข่งขันที่รุนแรงซึ่งส่งผลกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัท

สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะขาลงของอุตสาหกรรมห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์ แต่แนวโน้มคาดว่าจะดีขึ้นในระยะปานกลางเนื่องจากโรงงานที่มีต้นทุนสูงจะปิดตัวลงซึ่งจะช่วยให้อุปสงค์และอุปทานกลับสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้ 125,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก 5.0% ในปี 2556 เป็น 6.2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 โดยส่วนหนึ่งสะท้อนอัตรากำไรของ PTA ที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น และการกลับมาผลิตของโรงงานผลิต MEG หลังจากหยุดซ่อมบำรุงในระหว่างปี 2556 ในส่วนของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อตันของการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 79 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2556 เป็น 89 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 โดยบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงาน 6,852 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 ในขณะที่อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 4.5 เท่า

ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีเงินกู้รวมจำนวน 82,280 ล้านบาท ลดลงจาก 85,266 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนดีขึ้นจาก 58.1% ณ สิ้นปี 2556 เป็น 56.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขยายกำลังการผลิตสำหรับโครงการเดิมตามแผนซึ่งรวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิต PTA ที่เมืองรอทเทอร์ดัม (Rotterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์ และการปรับปรุงระบบการผลิตโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (High Value Added, HVA) โดยบริษัทวางงบประมาณสำหรับการลงทุนเหล่านี้ประมาณ 16,600 ล้านบาทในช่วงปี 2557-2560 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8 ล้านตัน ณ สิ้นปี 2559 อย่างไรก็ตาม ประมาณการของทริสเรทติ้งได้เพิ่มงบประมาณสำหรับการซื้อกิจการของบริษัทอีกประมาณ 58,400 ล้านบาทในช่วงปี 2557-2560 ไว้ด้วย โดยงบประมาณนี้ได้รวมการซื้อกิจการ PHP Fibers GmbH (PHP) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และ Artenius TurkPET ในเดือนมิถุนายน 2557 ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้มีมูลค่าลงทุนรวม 4,063 ล้านบาท ในอนาคตคาดว่าบริษัทจะมีภาระเงินกู้เพิ่มมากขึ้นจากการซื้อกิจการ สำหรับการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Warrants) ของบริษัทจำนวน 2 ชุดนั้น หากมีการใช้สิทธิ ก็จะช่วยให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีแผนจัดการภาระหนี้เพื่อรักษาอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับที่ต่ำกว่า 1.0 เท่าให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ส่วนสภาพคล่องนั้นคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานมากกว่า 13,000 ล้านบาทในปี 2558 หลังจากที่กำลังการผลิตส่วนขยายใหม่ ๆ เริ่มดำเนินงาน ซึ่งเงินทุนจากการดำเนินงานในระดับดังกล่าวยังคงเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ โดยบริษัทมีภาระหนี้ครบกำหนดในปี 2558 จำนวน 5,800 ล้านบาท ในปี 2559 จำนวน 11,800 ล้านบาท และในปี 2560 อีก 13,000 ล้านบาท โดยที่บริษัทมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกประมาณ 20,000 ล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (IVL)

อันดับเครดิตองค์กร: A+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

IVL16OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 210 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+

IVL16OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,690 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+

IVL173A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+

IVL174A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+

IVL174B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+

IVL186A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+

IVL18OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 98 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+

IVL18OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,302 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+

IVL18DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 780 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A+

IVL193A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+

IVL194A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+

IVL206A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 520 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+

IVL20DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 880 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+

IVL21OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 37 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+

IVL21OB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,163 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A+

IVL224A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,250.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+

IVL224B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,649.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+

IVL22DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,645 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+

IVL236A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A+

IVL243A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+

IVL24DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,475 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A+

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท A-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest