นาย ปริพันธ์ หนุนภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอ ไอ (ไทยแลนด์) ผู้ดูแลลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์การ์ตูนจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ โดราเอมอน(Doraemon), โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่, โดราเอมอน สแตนด์ บาย มี, ชินจัง (Crayon Shinchan), แพนด้า ซี (Panda Z), ไลน์ (Line) เป็นต้น เปิดเผย ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ว่า บริษัทเตรียมใช้ กิจกรรมทางการตลาดเป็นกลยุทธ์นำ ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ และเพื่อสร้างกระแสความเคลื่อนไหวทางการตลาดในระดับประเทศ ทำให้กิจกรรมเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้รุกไปหาเป้าหมายได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสานต่อกิจกรรมเข้าโรงเรียน หรือ School road show เป็นประจำ 100 โรงเรียนต่อปี ถือเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ( direct to end-consumer ) ที่สำคัญ สิ่งที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ การทำงานอย่างใกล้ชิดกับ licensee โดยมองว่าเป็น partner เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่ใช่ลูกค้า เพราะลูกค้าทั้งของเราและ licensee ต่างก็คือ End consumer
นาย ปริพันธ์ กล่าวว่า แม้ว่าในปีหน้าบริษัทยังประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยภาพรวม จะยังอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา แต่ในด้านการเติบโตของบริษัทนั้นเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตได้ถึง 30% จากปีนี้ จากกลยุทธ์สำคัญดังกล่าว ประกอบกับบริษัทยังคงสานต่อแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ด้วยการทำกิจกรรมโดยตรงกับศูนย์การค้าชั้นนำเป็นหัวหอกในการทำการตลาด และพัฒนาสินค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ พัฒนาคาแรคเตอร์โดราเอมอน
เป็นแบรนด์ และจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในลักษณะพาร์ทเนอร์อย่างจริงจังด้วย ส่งผลให้ทั้งบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจมีอัตราการเติบโตไปพร้อมๆ กัน
“ปีหน้าบริษัทเตรียมทุ่มงบประมาณด้านการตลาดไว้ 70 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกลางปีและต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำคัญ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี และจากการที่บริษัทยึดแนวคิดการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเติบโต 47% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะทำได้ในอัตรา 20% แม้ว่าจะดำเนินงานยังไม่ถึงช่วงสิ้นปีก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทก็สามารถสร้างการเติบโตได้ถึง 30% เป็นผลจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดตลอดทั้งปี บวกกับความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ร่วมค้าในการพัฒนาสินค้าและการขยายตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนมูลค่าลิขสิทธิ์การ์ตูนในประเทศปัจจุบันมีประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งสินค้าลิขสิทธิ์และละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนมูลค่าตลาดเฉพาะสินค้าโดราเอมอนมีมูลค่าประมาณ
5 พันล้านบาท” นาย ปริพันธ์กล่าว
ด้านแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อเตรียมรับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี2558 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการศึกษารายละเอียดการทำตลาดสินค้าลิขสิทธิ์ในประเทศลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ เพื่อรองรับกับตลาด AEC ที่จะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นถึง 600 ล้านคน ซึ่งขณะนี้
เห็นถึงโอกาสความเป็นไปได้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังรอจังหวะในการเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว เนื่องจากธุรกิจนี้ต้องการพันธมิตรที่แข็งแรงและเข้าใจ การขยายตลาดสู่ AEC จึงเป็นแผนงานถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วและรอจังหวะในการเริ่มต้นเท่านั้น นาย ปริพันธ์ กล่าวปิดท้าย