สำหรับไตรมาสที่ 4/2557 ธนาคารมีผลกำไรสุทธิก่อนตรวจสอบจำนวน 12,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลงจาการที่ได้มีการตั้งสำรองตามหลักการระมัดระวังไว้แล้ว ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามกำไรที่เพิ่มขึ้นของไตรมาส 4/2557 จะน้อยกว่าของไตรมาส 4/2556 เนื่องจากในปี 2556 ธนาคารมีการรับรู้รายได้จากการลงทุนในระดับที่สูง
ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาต้องถือว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจที่ธนาคารนำมาใช้ดำเนินการได้ถูกทดสอบอย่างเข้มข้นในสภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ดังนั้นการที่ธนาคารสามารถสร้างผลงานที่ดีต่อเนื่องและผ่านปีอันท้าทายมาได้อย่างดีเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จและแสดงถึงความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ความแข็งแกร่งทางด้านยุทธศาสตร์ และความสามารถของทีมผู้บริหารและพนักงานของธนาคารเป็นอย่างดี”
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในปี 2557 มีจำนวน 81,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากปี 2556 เป็นผลจากการลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยแม้มีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการลดต้นทุนเงินฝากเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ ทั้งยังเป็นไปตามแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่ในระดับปานกลาง
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ในปี 2557 ลดลงจากปีที่แล้ว 6.9% มาอยู่ที่ 47,030 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้เงินปันผลที่ลดลง (เมื่อเทียบกับเงินปันผลรับในระดับสูงที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 และ 3 ของปี 2556) รวมทั้งการลดลงของรายได้จากธุรกรรมค้าเงินและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ตลอดจนรายได้จากเบี้ยประกันภัย
คุณภาพสินเชื่อ ในปี 2557 อยู่ในระดับคงที่แม้จะมีความกดดันในเชิงลบ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 2.11% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 ลดลงจาก 2.14% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 ยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 42,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากสิ้นปี 2556 โดยธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในปี 2557 เป็นจำนวน 13,214 ล้านบาท
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "ตามที่ได้มีประกาศให้ทราบเป็นการทั่วกันแล้วว่า ดิฉันจะครบวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ในต้นเดือนเมษายนนี้ ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณมายังคณะกรรมการธนาคาร เพื่อนพนักงาน และลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนดิฉันมาเป็นอย่างดี หากปราศจากท่านทั้งหลายผลสำเร็จด้านกำไรที่สูงขึ้นติดต่อกัน 5 ปีเช่นนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ดิฉันได้มีโอกาสนำธนาคารไทยแห่งแรกสู่ความสำเร็จในระดับนี้ ดิฉันมั่นใจอย่างยิ่งว่าคณะผู้บริหารชุดใหม่จะสามารถนำธนาคารก้าวสู่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปและผลักดันให้ธนาคารไทยพาณิชย์บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารที่ทุกคนเลือก (Bank of Choice)”