นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สาย Bancassurance ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจขายประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากสถิติรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทยล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2557 อุตสาหกรรมประกันชีวิตมีการเติบโตของเบี้ยประกันจากธุรกิจใหม่ที่ 15.44% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจไทยที่มีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ในปี 2558 น่าจะมีการเติบโตและคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา ล่าสุดธนาคาร จึงได้ร่วมกับ ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ “ออมคุ้มค่า 15/8” เพื่อเป็นทางเลือกในการออมที่คุ้มค่าต้อนรับปีใหม่ให้กับลูกค้า โดยมุ่งจับกลุ่มเป้าหมายผู้รักการออม และการลงทุน โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการสร้างวินัยการเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ โดยได้รับผลตอบแทนสูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับเงินก้อนโตตามแผนการออมเมื่อครบอายุสัญญาตามกรมธรรม์ นอกจากนี้ “ออมคุ้มค่า 15/8” ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพหรือตอบคำถามสุขภาพแต่อย่างใด รับประกันตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง 80 ปี
นอกจากนี้ ธนาคารได้วางแผนกระตุ้นการตลาดด้วยการออกแคมเปญโดนใจสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตกับธนาคารให้เลือกรับของกำนัลได้ตามใจ ทั้งเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากไทยพาณิชย์ หรือเงินคืนเข้าบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ หรือบัตรกำนัลตามต้องการ พร้อมแคมเปญสุด Exclusive พาลูกค้าสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่สุดประทับใจที่ฮ่องกง สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน “ออมคุ้มค่า 15/8” เพิ่มเติมด้วย และพิเศษยิ่งไปกว่านั้นสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน พร้อมรับคะแนนสะสมพิเศษ
นายสตีเฟ่น แอนโทนี่ แอปเปิ้ลยาร์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ SCBLIFE กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ “ออมคุ้มค่า 15/8” เป็นรูปแบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่คล้ายกับการออมเงินที่ให้ผลประโยชน์ทางภาษี และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมๆ กัน โดยถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนไทยที่ให้ความสำคัญกับการออมเงินผ่านประกันชีวิตกันมากขึ้น ซึ่งการออมเงินผ่านผลิตภัณฑ์ “ออมคุ้มค่า 15/8”ลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและแน่นอนในระยะยาว โดยผลตอบแทนไม่ได้รับผลกระทบจากความผันแปรทางเศรษฐกิจ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยกระจายความเสี่ยงโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ตลาดทุนมีความผันผวนเช่นในปัจจุบัน
สำหรับแบบประกัน ออมคุ้มค่า 15/8 นี้ ลูกค้าชำระเบี้ยประกันเพียง 8 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองยาวถึง 15 ปี โดยให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มมากขึ้นทุก 5 ปี โดยในสิ้นปีที่ 1-5 ได้รับเงินคืนปีละ 2% ของทุนประกันภัย รวม 10% สิ้นปีที่ 6-10 ได้รับเงินคืนเพิ่มเป็นปีละ 3% รวม 15% และสิ้นปีที่ 11-15 รับเงินคืนเพิ่มปีละ 4% รวม 20% และรับเงินคืนเพิ่มอีก 870% ณ สิ้นสุดสัญญาตามกรมธรรม์ในปีที่ 15 รวมรับผลประโยชน์ตลอดสัญญาเป็นเงินก้อนโตถึง 915%ของจำนวนเงินเอาประกันภัย นอกจากนี้ลูกค้าสามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดจำนวน 100,000บาทต่อปี ตามเงื่อนไขของกรมสรรพกร ซึ่ง “ออมคุ้มค่า 15/8” เป็นตัวช่วยสำหรับลูกค้าในการเริ่มต้นสร้างวินัยการออมได้ง่ายด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำเพียง50,000บาท และไม่จำกัดวงเงินเอาประกันภัยสูงสุด เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าแต่ละรายสามารถวางแผนการออมเงินและได้รับความคุ้มครองได้สูงสุดตามความต้องการ
นางสาวอารยา กล่าวทิ้งท้ายว่า จุดมุ่งหมายของธนาคารและบริษัทในเครือคือ มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกันไปทุกเพศทุกวัย จึงมั่นใจว่า “ออมคุ้มค่า 15/8” จะสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์บริการลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ โทร.02-777-7777