เริ่มต้นด้วย แบบที่ 1 “เมืองไทย เซฟวิ่ง ดีไลท์ 10/4” เปรียบได้กับความรักที่ “เพิ่มพูน”ด้วยจุดเด่นของกรมธรรม์ที่ให้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินจ่ายคืนทุกปี ตั้งแต่ 3% ไปจนถึงสูงสุด 7% รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญาสูงถึง 235% พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตถึง 200% ไปตลอดสัญญา 10 ปี แต่จ่ายเบี้ยประกันระยะสั้นเพียง 4 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้น แต่ได้ความคุ้มครองยาว สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 70 ปี
แบบประกันต่อมา “เมืองไทย สมาร์ท เซฟวิ่ง 10/6” เปรียบได้กับความรักที่ “ล้นใจ” เพราะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าจุใจ รับเงินผลประโยชน์จ่ายคืนทุกสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 ปีละ 10% และเมื่อครบสัญญาในปีที่ 10 รับเงินครบสัญญาสูงถึง 610% จ่ายเบี้ยประกันเพียง 6 ปี สมัครง่าย ได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 80 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพทั้งนี้การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัย หรือพิจารณาจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย
ปิดท้ายด้วยแบบที่ 3 “เมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 14/7” เปรียบได้กับความรักที่ “มั่นคง” เนื่องจาก ให้ความคุ้มครองชีวิตยาวถึง 14 ปี และคุ้มครองสูง 145% ตลอดสัญญา รวมถึงกรณีที่ผู้เอาประกันเกิดเหตุไม่คาดฝันจนเป็นเหตุให้ต้องทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ก็ยังได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องโดยไม่ต้องชำระเบี้ยประกันอีกด้วย จึงช่วยคลายกังวลได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีเงินจ่ายคืนทุกสิ้นปีกรมธรรม์ และเมื่อครบสัญญา รวมรับผลประโยชน์ตลอดสัญญาถึง 186% โดยจ่ายเบี้ยประกัน 7 ปี สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 70 ปี
“เรามองว่าประกันชีวิตทั้ง 3 แบบนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายในช่วงอายุ 28-50 ปี เป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้ฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ที่หวือหวานัก แต่สามารถแสดงออกถึงความรักที่มีให้แก่กันได้โดยใช้ประกันชีวิตเป็นสื่อกลาง เพราะเป็นการวางแผนระยะยาวที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการออมเงิน การบริหารความเสี่ยง และเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิตด้วยเราจึงเชื่อว่าการมอบประกันชีวิตให้แก่กัน ในเทศกาลวาเลนไทน์ จะสร้างความประทับใจ ความผูกพัน และเหมาะกับความรักทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี” นายสาระ กล่าว./
หมายเหตุ : - ผลประโยชน์และความคุ้มครองเป็น % ของเงินเอาประกัน ณ วันเริ่มสัญญา