นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เผยว่าขณะนี้ โรงงานของอิชิตันสามารถเดินเครื่องได้เต็มศักยภาพการผลิต สามารถผลักดันสินค้าสร้างยอดขายในช่วงหน้าร้อนได้ตามแผน อย่างไรก็ตามจากสภาพ อากาศที่ร้อนจัด และผลตอบรับของซัมเมอร์ แคมเปญ ส่งผลให้สินค้าของอิชิตันมีทิศทางในการขายที่ดีมาก ทำให้สินค้าผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในช่วงระยะ สั้นๆ จากสภาพโดยรวมคาดการณ์ว่าตลาดชาพร้อมดื่มทั้งระบบในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 15% หรือมีมูลค่า 17,700 ล้าน บาท โดยมีปัจจัย สนับสนุนจากกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้เล่นแต่ ละราย และอากาศที่ร้อนจัด รวมถึงการมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด
ภายในไตรมาส 2/58 อิชิตันจะยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้า ใหม่ ลงสนามแข่ง อันได้แก่เครื่องดื่มน้ำผลไม้ ตราไบเล่ นับเป็นการขยายธุรกิจเข้าสู่เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ เพื่อเพิ่มพอร์ตสินค้าในมือ ICHI ให้ หลากหลายขึ้น พร้อมเตรียมรุกการส่งออกสินค้าไปยังตลาด AEC เพิ่มเติมอีกหลายประเทศ สำหรับความร่วมมือระหว่าง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด (PT Atri Pasifik) (AP) ประเทศอินโดนิเซีย อันมีบริษัทมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (Misubishi Corperation) ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นร่วม ในนามบริษัท อิชิตัน อินโดนิเซีย มีกำหนดวางจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มอิชิตันกลุ่มแรกในประเทศอินโดนิเซีย ภายในไตรมาส 2/58 โดยได้ตั้งเป้า ยอด ขายปีแรก 800-1,000 ล้านบาท ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งใน อนาคต
ด้านกระแสตอบรับซัมเมอร์ แคมเปญ “อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง ภาค 4” ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของกิจกรรมมีแนวโน้มที่ดี และคาดว่าจะส่งผลไปจนถึงไตรมาส 2/58 เนื่อง จากปีนี้อากาศร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยความพร้อมของโรงงานอิชิตัน กรีน แฟคทอรี่ นั้น ทำให้บริษัทมีความสามารถในการบุกตลาดเพิ่มขึ้น ด้วยกำลังการผลิตสูงถึง 1,000 ล้าน ขวด และ 200 ล้านกล่อง ต่อปี และกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้าน ขวด ต่อปี รวมถึงทำให้อิชิตันบริหารต้นทุนการผลิต การดำเนินงานและสต็อคสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2558 ไว้ 7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 6,209 ล้าน บาท และคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้น 16 -18 % จากปี 2557 ที่ มีกำไรสุทธิ 1,200 ล้าน บาท โดยคาดการณ์แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มทั้งระบบสำหรับปี 2558 จะอยู่ที่ 17,700 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นราว 15% ซึ่งมั่นใจ ว่า ICHI จะยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ในตลาดเป็นปีที่ 3 ติดต่อ กัน จากปี 2557 ICHI ครองแชมป์ด้วย สัดส่วนสูงถึง 43.8%