ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนไฟย์โตชูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือAPCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามครบวงจรด้วยการวิจัยพัฒนาผลิตและจำหน่าย เปิดเผยว่า ภายในเดือน เม.ย.บริษัทจะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทาง APCO Digital Marketing โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามของ APCO ทุกชนิดให้กับผู้บริโภคในทุกๆประเทศ คาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดหากประสบความสำเร็จ เมื่อรวมกับการตลาดในประเทศในช่องทางบริการตรง และ Tele-marketingที่จะได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing จากสิงคโปร์ พัฒนาระบบให้มีความพร้อมทั้งในด้านการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า การขยายเครือข่ายทางออนไลน์ การจัดส่ง ตลอดจนการรองรับคำสั่งซื้อ และการชำระเงิน โดยใช้ Magento E-Commerce Platform ของ Ebayซึ่งบริษัทสิงคโปร์ได้ใช้งบประมาณในการพัฒนาระบบดังกล่าวจำนวน 10 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาเซียน เพื่อภูมิ(คุ้มกัน)สมดุล” เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่แล้วด้วยวิทยาการภูมิคุ้มกันล่าสุด เผยแพร่การปรับระดับภูมิคุ้มกันสมดุลเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ผู้บริโภคในต่างประเทศเกิดความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆของบริษัท
“APCO จะสามารถสร้างการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางใหม่อย่าง Digital Marketing ที่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศผ่านช่องทางบริการตรง และ Tele-marketing ที่เริ่มกลับมามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในปลายไตรมาสแรก นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามปณิธานการเป็นบริษัทมหาชนที่ร่วมสร้างและร่วมรับผลประโยชน์โดยมหาชนด้วยเช่นกัน” ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทจะทำการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 280 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.10 บาท/หุ้น ด้วยการให้ผู้บริโภคเป็นผู้มีสิทธิ์ในการจองซื้อ โดยใช้ยอดการซื้อผลิตภัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 57 ถึง วันก่อนการจองหุ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย. 58 เป็นตัวกำหนดสิทธิ์ในการจองซื้อ ยอดซื้อผลิตภัณฑ์ 1 บาทมีสิทธิ์ในการจองซื้อ 1 หุ้น และสมนาคุณเพิ่มหุ้นอีก 5% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิ์จองซื้อโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะที่การกำหนดราคาจะยึดราคาเฉลี่ย 7วันย้อนหลังจากวันจำหน่ายหุ้น การเพิ่มทุนลักษณะนี้เมื่อเสร็จสิ้นโครงการจะทำให้ APCO มีผลกำไรเพิ่มขึ้นทันที จึงจะไม่เกิด Dilution แต่จะมีผลตรงกันข้ามหลายเท่า
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2557 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 425.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.27ล้านบาทจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 348.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.17% และมีกำไรสุทธิจำนวน 118.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น39.92 ล้านบาทจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 78.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50.64% โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของยอดขายสินค้าในส่วนที่มีกำไรขั้นต้นสูงได้มากขึ้น โดยคณะกรรมการบริษัท APCO ได้มีมติเห็นชอบให้มีการปันผล 100% ของรายได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว