นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะช่วยขยายตลาดลูกค้าบุคคลพิเศษที่มีเงินฝากและเงินลงทุนกับธนาคารตั้งแต่10 ล้านบาทขึ้นไป หรือกลุ่มลูกค้าเดอะวิสดอม ไปสู่กลุ่มเจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง และลูกค้าชาวต่างชาติ จากประเทศกลุ่มเออีซีที่เข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดเศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทย รวมทั้งพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าบุคคลพิเศษในประเทศไทยมีจำนวน 157,000 ราย เป็นลูกค้าเดอะวิสดอม ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 128,000 ราย หรือราว 80%ของทั้งหมด โดยแนวโน้มพฤติกรรมลูกค้ากลุ่มนี้ จะมีการหาข้อมูลความรู้เรื่องการเงินและการลงทุนมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากธนาคารจะไม่ใช่เป็นเพียงที่ฝากเงินอีกต่อไป แต่เป็นการบริหารสินทรัพย์ให้งอกเงยเพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่าง ๆ ของชีวิต
ในปี 2558 นี้ บริการเดอะวิสดอม ธนาคารกสิกรไทยได้ยกระดับการให้บริการไปอีกขั้น ด้วยการส่งมอบประสบการณ์ “THE RED CARPET LIFE: ชีวิตที่เหนือระดับในทุกมิติ ของลูกค้าคนสำคัญ” ใน 2 รูปแบบ ทั้งด้านไลฟ์สไตล์ และด้านการเงินการลงทุน เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง โดยธนาคารฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับอินเตอร์ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการแก่ลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูงด้านต่าง ๆ ดังนี้
ประสบการณ์ระดับวีวีไอพีด้านการเงินและการลงทุน ธนาคารได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเพิ่มความหลากของผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครบวงจร โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสในการขยายการลงทุนที่กว้างไกลขึ้น และมีทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในปีนี้ เราได้ปรับเพิ่มความแข็งแกร่งของการให้บริการด้านการลงทุนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ด้วยการจัดให้มีโมเดลการดูแลลูกค้าด้านการลงทุนที่เหมาะสมตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละท่าน สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อน จะมีบริการที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Dedicated Investment Advisory Manager) ที่ผ่านหลักสูตรการวางแผนการเงินหรือ CFP(Certified Financial Planner) เพื่อให้คำแนะนำการลงทุนแบบเจาะลึก และสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการทางการลงทุนที่ไม่ซับซ้อน จะได้รับการดูแลจากผู้จัดการสาขาพร้อมด้วยการอัพเดทบทวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารฯ มีที่ปรึกษาการลงทุนกว่า 120 คน ครอบคลุมทั่วประเทศ
การส่งมอบประสบการณ์ RED CARPET ด้านไลฟ์สไตล์ ธนาคารฯ ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการไลฟ์สไตล์ระดับ Very VIP ลูกค้าเดอะวิสดอมจะได้รับประสบการณ์พร้อมด้วยการต้อนรับสุดพิเศษเสมือนคนสำคัญในทุก ๆ ที่และทุกจังหวะของการใช้ชีวิตด้านไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน (Everyday Life) หรือ ในโอกาสพิเศษต่างๆ (Exclusive Event) อาทิ ไลฟ์สไตล์ด้านการสันทนาการและช้อปปิ้ง กับศูนย์บริการเดอะวิสดอม ระดับแฟลกชิป ซึ่งมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อยู่ในโรงแรมระดับเวิลด์คลาสและศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่ รวม 4 แห่ง ได้แก่ เดอะวิสดอม เลาจน์ แอด โซฟิเทล โซ แบงคอก สยามพารากอน เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และล่าสุด คือ เดอะวิสดอม เลาจน์ แอด เอ็มควอเทียร์ พร้อมสถานที่พิเศษ คือ เดอะวิสดอม อิน เดอะ การ์เด้น ในสวน ควอเทียร์ วอเทอร์ การ์เด้น พรีเซ็นทิด บาย เคแบงก์ ซึ่งลูกค้าจะได้ประสบการณ์ใหม่ผ่านกิจกรรมพิเศษแบบ Happening ที่หลากหลายหมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์เดอะวิสดอมมีสีสัน มีชีวิตชีวา และสนุกสนานมากขึ้น ไลฟ์สไตล์ด้านบันเทิงและศิลปะการแสดง “โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ”คืออีกหนึ่งความพิเศษที่เดอะวิสดอมเตรียมไว้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ด้านบันเทิง กับการเข้าชมละครเวทีหรือศิลปะการแสดงต่าง ๆ ที่คัดสรรมาเฉพาะลูกค้าเดอะวิสดอม
ไลฟ์สไตล์ด้านการท่องเที่ยว ลูกค้าเดอะวิสดอมจะได้รับการรับรองสุดพิเศษเพื่อการเดินทางเหนือระดับกับห้องรับรองพิเศษในสนามบินกว่า 600 แห่งทั่วโลก และในปีนี้ ธนาคารกสิกรไทย เตรียมมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกค้าเดอะวิสดอม กับห้องรับรองสุดพิเศษ เดอะวิสดอม เลาจน์ แอด สุวรรณภูมิ เพื่อประสบการณ์การเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมด้วยประสบการณ์ Red Carpetในโอกาสพิเศษ (Special Red Carpet Invitation)จากการได้รับเชิญร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ THE WISDOM Exclusive Event และ The Ultimate World-Class Journey ซึ่งเป็นประสบการณ์แบบ Money-can’t-buy ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยจะครอบคลุมความสนใจในไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า ซึ่งในบางโปรแกรมธนาคารได้พาลูกค้าเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ที่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารฯ มั่นใจว่าจะด้วยกลยุทธ์การให้บริการดังกล่าว จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าบุคคลพิเศษได้ครบทุกมิติของการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง โดยเป้าหมายการให้บริการเดอะวิสดอม ธนาคารกสิกรไทย ปี 2558 ธนาคารจะมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าปัจจุบันซึ่งมีฐานขนาดใหญ่อยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพื่อผลักดันมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Asset Under Management: AUM) ให้เพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปี2557 ซึ่งมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท เป็น 1.3. ล้านล้านบาท หรือเติบโต 10% เพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนจาก 50% เป็น 60% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการทั้งหมด และเพิ่มสัดส่วนลูกค้าในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น จาก 33% เป็น 35% ของฐานลูกค้าทั้งหมด