นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานปี 2557/58 (เม.ย.57 – มี.ค.58) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,963 ล้านบาท ลดลง 5.9% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,149 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 838 ล้านบาท ลดลง 26.9% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,146 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 (ม.ค.-มี.ค. 58) บริษัทฯ มีรายได้รวม 616 ล้านบาท ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 641 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลง ส่งผลต่อเม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมของปี 2558 ลดลงเกือบ 10% อย่างไรก็ตามรายได้ของบริษัทฯ จากสื่อโฆษณาและพื้นที่ร้านค้าบนบีทีเอส รวมถึงสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและสื่ออื่นๆ ยังคงเติบโตโดดเด่นถึง 7.5% และ 7.8% จากปีก่อน สวนทางกับการหดตัวของทุกๆ สื่อโฆษณาในตลาด เนื่องจากบริษัทฯ ได้พัฒนาพื้นที่สื่อดิจิตอลใหม่ๆ เพื่อรองรับการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเจ้าของสินค้าและเอเยนซี่โฆษณายังพร้อมใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในส่วนนี้เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน การเข้าไปบริหารสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จาก 75 ตึกเป็น 103 ตึก ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างโอกาสทั้งรายได้และกำไรจากสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีรายได้รวมของบริษัทฯ ลดลง 5.9% เนื่องจากธุรกิจสื่อในห้างโมเดิร์นเทรดลดลงกว่า 25% หลังหมดสัญญาบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในห้างโลตัส อีกทั้งบริษัทฯ ยังพบสื่อโฆษณาที่ไม่ใช่ของบริษัทฯ เป็นจำนวนมากขายแข่งในพื้นที่ที่ได้รับสัญญาจากบิ๊กซี ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจบอกเลิกสัญญากับห้างบิ๊กซีที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ บันทึกประมาณการค่าเสียหายขั้นต้นที่อาจเกิดจากการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดกับบิ๊กซีจำนวน 215 ล้านบาท ก่อนหักภาษี ในงบไตรมาส 4 ของปี 57/58 จึงส่งผลต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้
นายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ วีจีไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมผลการดำเนินงานของเราในปีนี้ไม่ดีนัก ซึ่งเป็นผลจากการที่สัญญาในเทสโก้ โลตัส ทยอยหมดลงในช่วงเดือนธันวาคม 2557 ถึง กุมภาพันธ์ 2558 ประกอบกับเราเองได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับบิ๊กซีทำให้รายได้และกำไรลดลงไปบ้าง แต่ในส่วนของธุรกิจสื่อโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานแล้วพบว่ายังมีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ”
นายมารุต กล่าวต่อไปว่า “การก้าวออกจากธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างโมเดิร์นเทรดนั้น บริษัทฯ ประเมินว่าแม้จะกระทบรายได้เป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ แต่จะกระทบกำไรในงวดปี 58/59 เพียงเล็กน้อย เนื่องจากโมเดิร์นเทรดเป็นธุรกิจที่มีอัตราการทำกำไรต่ำ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรของบริษัทฯ ในภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทฯ แสวงหาโอกาสในการรุกธุรกิจใหม่เพื่อขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าจะมีโครงการใหม่เข้ามาหนุนรายได้และกำไรในไม่ช้านี้”