(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.55 น.ของวันที่ 17/07/15)
แนวโน้มวันที่ 20 กรกฎาคม 2558
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐถูกใช้เพื่อประเมินทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเหมาะสมพอที่เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ปรับตัวลดลงระดับ 281,000 ราย โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ และตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 19 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่งข้อมูลดังกล่าว หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ซึ่งส่งผลฉุดราคาทองคำร่วงลง ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน หลังจากในช่วงที่ผ่านมา 3 สัปดาห์ที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาในเชิงเทคนิคนั้น แสดงให้เห็นราคาทองคำยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน ส่งผลให้ในระยะสั้นราคาทองคำจะมีความผันผวนซึ่งอาจเคลื่อนไหวตามแรงซื้อขายที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าราคาทองคำต่างประเทศอ่อนตัวลงไปราคาทองคำภายในประเทศยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไปมากสุดในรอบกว่า 6 ปีนับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2552 โดยทดสอบระดับ 34.226 ขณะที่ยังมีกระแสคาดการณว่าน่าจะมีปัจจัยสนับสนุนให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ต่อเนื่องไปอีก วายแอลจีเชื่อว่าในระยะสั้น ราคาทองคำพยายามไต่ระดับขึ้นแต่หากแรงซื้อไม่มากพออาจเกิดแรงขายออกจนกว่าราคาจะไม่สร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรายสัปดาห์ได้ ทั้งนี้ จึงเป็นการยากที่จะคาดการณ์ถึงการเหวี่ยงตัวของราคาทองคำ ซึ่งเหตุผลดังกล่าวทำให้ในระยะนี้วายแอลจีแนะนำนักลงทุนให้ลงทุนระยะสั้นเพื่อลดความผันผวนของราคา
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนจับตาบริเวณ 1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนได้จะเกิดแรงซื้อที่ดันราคาให้ดีดตัวขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคามีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ ระยะสั้นแม้ราคาทองคำมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังยืนไม่ได้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,135-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,135 (18,310บาท) 1,126 (18,170บาท) 1,120 (18,070บาท)
แนวต้าน 1,156 (18,650บาท) 1,165 (18,800บาท) 1,173 (18,930บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,135 (18,530บาท) 1,126 (18,390บาท) 1,120 (18,290บาท)
แนวต้าน 1,156 (18,870บาท) 1,165 (19,020บาท) 1,173 (19,150บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148