(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.53 น.ของวันที่ 29/07/15)
แนวโน้มวันที่ 31 กรกฎาคม 2558
GFMS ในเครือธอมสัน รอยเตอร์ เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาส 2 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 ความต้องการทองคำในตลาดส่งมอบปัจจุบันไม่ได้เพิ่มขึ้น แม้การดิ่งลงของราคาทองคำจะทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี 2010 แรงซื้อทองคำจากจีนและอินเดียซึ่งเป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงชะลอตัว GFMS เปิดเผยว่ายอดซื้อทองคำแท่งและเหรียญทองคำของจีนร่วงลง 26% สู่ระดับ 35 ตัน และการซื้อเครื่องประดับอัญมณีของจีนร่วงลงถึง 23% สู่ระดับ 102 ตัน ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 ประกอบกับ Valcambi ซึ่งเป็นบริษัทสกัดทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่า การนำเข้าทองคำของจีนอาจลดลงถึง 40% ใน ปีนี้ และความต้องการทองคำเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันลดลงเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของสำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรของฮ่องกง เปิดเผยว่า การนำเข้าทองคำสุทธิจากฮ่องกงร่วงสู่ระดับ 37.146 ตันในเดือนมิถุนายน จากระดับ 70.846 ตันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งการนำเข้าทองคำสุทธิของจีนจากฮ่องกงร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนอุปสงค์ทองคำในตลาดปัจจุบันที่เบาบางเพราะนักลงทุยคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจมีแนวโน้มปรับฐานลงต่อ ขณะที่มุมเชิงลบในตลาดทองคำเพิ่มมากขึ้นเมื่อคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐรายงานว่า ผู้จัดการกองทุนและกองทุนเฮดจ์ฟันด์หันมาถือครองสถานะขายสุทธิในสัญญาทองคำสูงถึง 11,345 สัญญา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ที่นักเก็งกำไรหันมาถือครองสถานะขายสุทธิ และสิ่งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำเผชิญกับความเสี่ยงจากแรงขายในระยะใกล้ เบื้องต้นหากราคาทองคำขึ้นทดสอบบริเวณ 1,105-1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ ยังแนะนำการลงทุนจากการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,105-1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,075-1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้นและระยะกลางหากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร่งสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมบางส่วน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,085 (17,910บาท) 1,075 (17,740บาท) 1,050 (17,330บาท)
แนวต้าน 1,105 (18,240บาท) 1,120 (18,490บาท) 1,135 (18,740บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,085 (18,080บาท) 1,075 (17,920บาท) 1,050 (17,500บาท)
แนวต้าน 1,105 (18,420บาท) 1,120 (18,670บาท) 1,135 (18,910บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148