สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 ดอลลาร์ตามลำดับ
- สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์แรก หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 7 สัปดาห์ เนื่องจากจีนปรับลดค่าเงินหยวนติดต่อกัน 2 วันในวันที่ 11 ส.ค.และวันที่ 12 ส.ค. โดยมีการปรับลดค่ากลางอ้างอิงเงินหยวนต่อดอลลาร์ 2 วันรวม 3.4% ส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทำให้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1,126 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว
- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในช่วงกลางคืนอ่อนตัวลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% โดยการผลิตได้ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ร่วงลง 5 เดือนติดต่อกันจากช่วงต้นปี ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนก.ค.
- สัปดาห์นี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ที่เป็นการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค. ซึ่งเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนก.ย. อย่างไรก็ดีหลังจากที่สกุลเงินหยวนของจีนอ่อนค่าอย่างมาก ทำให้เริ่มมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,110-1,125 ดอลลาร์/ออนซ์ ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ ขณะที่ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,125 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีแนวต้านสำคัญที่ 1,130 ดอลลาร์/ออนซ์ที่คาดว่าจะผ่านขึ้นไปได้ยาก