นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยถึง แนวโน้มธุรกิจโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสินค้ารุ่นใหม่ทยอยออกสู่ตลาด เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นตลาดและยอดขายได้ เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเน้นจำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ประกอบกับพัฒนาช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในขณะนี้ โดยเน้นสินค้าที่เป็นอุปกรณ์เสริมมือถือที่จะเข้ามาปรับรุกการขายให้ตรงกับ ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น
สำหรับธุรกิจของบริษัทลูกยังคงมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะธุรกิจบริหารหนี้ของ JMT ซึ่งเดินหน้าซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันภาพรวมหนี้ NPL ในระบบมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้สถาบันการเงินและหน่วยงานต่าง ๆ ขายหนี้ออกมามากขึ้น ส่วนธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าของ JAS ASSET ที่อยู่ระหว่างยื่นแบบคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายได้ภายในปี 2558 นี้ ภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตที่ดี อีกทั้ง ในช่วงที่ผ่านมาเข้าไปรุกธุรกิจบริหารโครงการในรูปแบบของศูนย์การค้าชุมชน โดยใช้ชื่อว่า "The JAS" ปัจจุบันมีจำนวน 2 โครงการ ที่สาขาวังหิน และลาดปลาเค้า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้ JMART GROUP มากยิ่งขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเข้าไปซื้อหุ้น SINGER ในช่วงก่อนหน้านี้ น่าจะเห็นความร่วมมือที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นไป ส่วนในปีนี้ JMART คงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนที่ถือหุ้นเข้ามาในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซึ่งยังคงไม่มีนัยสำคัญอะไรมากนัก พร้อมทั้งคาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะถึงจุดคุ้มทุน ภายใน 2-3 ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างมองหาโอกาสจากการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ เพิ่มเติมอีก เพื่อสร้างการเติบโตให้ JMART GROUP ในระยะยาวได้
"รายได้ของกลุ่มบริษัทในปี 58 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่ได้รวมผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าไปลงทุนใน SINGER โดยเชื่อว่า หากรวมผลประโยชน์เข้ามาจะสนับสนุนให้เป้าหมายรายได้ในปีนี้มีแนวโน้มทะลุ เป้าที่วางไว้ ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างทยอยเพิ่มช่องทางการขายโทรศัพท์มือถือในโชว์รูมของ SINGER ประมาณ 50 สาขาในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มยอดขายได้อีก 1 พันล้านบาท ภายในปี 2559 รวมทั้ง ใช้สาขา SINGER ในการเพิ่มช่องทางให้ JMT บริหารหนี้ได้เพิ่มเติมอีกด้วย" นายอดิศักดิ์ กล่าว
งบการเงินรวมงวดประจำไตรมาส 2/2558 มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 49.90ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 90.87 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลง 40.97 ล้านบาท หรือ 45% เป็นผลจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการลดลงอยู่ที่ 2,079 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,130.94 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลง 2.44%
โดยรายได้ที่ปรับลดลงเป็นผลจาก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าลดลง 119.19 ล้านบาท หรือลดลง 6.22% เนื่องจากปริมาณการขายและราคาเฉลี่ยต่อเครื่องลดลง ส่วนรายได้จากการติดตามหนี้สินและบริการอื่น เพิ่ม ขึ้น 49.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.07% เนื่องจากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารและสามารถ ติดตามหนี้ได้มากขึ้น และรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 17.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.10% จากการปรับค่าเช่าพื้นที่และขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 133.38 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 94.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.32 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 41.80 เป็นผลจากบริษัทฯ มีรายได้ค่าส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น 42.84% จากการได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือ
สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 273.46 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลง 47.27 ล้านบาท หรือ14.74% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยรวม ปรับตัวลดลงในส่วนของรายได้จากการขายสินค้า
งบการเงินรวมงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 123.41 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 175.93 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลง 29.85% ส่วนรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 4,208.73 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,397.34 ล้านบาท คิดเป็นการปรับลดลง 4.28%
"ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ JMART มีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ในขณะที่ธุรกิจของบริษัทลูกยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โดยปกติในช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจโทรศัพท์มือถือจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี กว่าครึ่งปีแรก และมั่นใจ จะสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว