นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (KOOL) กล่าวว่า จากการเดินทางเพื่อนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Road Show) ทั้ง 5 จังหวัด คือ จ.เชียงใหม่ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และปิดท้ายที่ กทม.ผลปรากฏว่า นักลงทุนในจังหวัดดังกล่าวและในจังหวัดใกล้เคียง ในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศให้การตอบรับ และเข้ารับฟังการนำเสนอข้อมูลของบริษัทเป็นจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นถึงความสนใจในธุรกิจของ KOOL ซึ่งประกอบธุรกิจหลักในการจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความเย็น อาทิ พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า MASTERKOOL และ Cooltop โดยบริษัทได้ออกแบบ สร้างสรรค์ และผลิตเพื่อให้สินค้าออกมามีคุณภาพทำความเย็นได้จริงเหนือคู่แข่งจนสามารถทำเจาะตลาดได้ทั้งในประเทศและในระดับโลกอีกกว่า 30 ประเทศ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตการเติบโตที่ต่อเนื่องและมั่นคง เพราะเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างใหม่จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนให้สินค้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นคือ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวขึ้นทุกปี จนทำให้พัดลมธรรมดาไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ในขณะที่แอร์ก็ยังเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า แต่พัดลมไอเย็นสามารถเข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคที่ดี เพราะสามารถทำความเย็นและลดอุณหภูมิได้จริง มีขนาดให้เลือกหลากหลายเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญประหยัดไฟกว่าการใช้แอร์ถึง 10 เท่า
“การเดินทางไปโรดโชว์ทั้ง 5 จังหวัด ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีนักลงทุนให้ความสนใจหุ้นของเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเดินทางไปให้ข้อมูลในพื้นที่แบบใกล้ชิดจะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจของ KOOL ซึ่งทางทีมงานได้นำสินค้าตัวอย่างไปแสดงในงานโรดโชว์ทำให้นักลงทุนสนใจและมีความเข้าใจธุรกิจมากยิ่งขึ้น”นายนพชัย กล่าวในที่สุด
นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในครั้งนี้ของ KOOL จะทำให้ผู้ที่เข้าร่วมงานเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจอย่างถ่องแท้ รวมไปถึงทราบเกี่ยวกับแผนการดำเนินงาน และศักยภาพการเติบโตในอนาคตของบริษัทมากขึ้น และยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนด้วย โดยคาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น รวมถึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในไตรมาสที่ 3/2558
สำหรับทิศทางธุรกิจของ KOOL นั้นถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นช่วงเริ่มต้น สินค้ายังมีความใหม่ต่อตลาดผู้บริโภค เป็นสินค้าที่มาอยู่ตรงกลางระหว่างพัดลมและแอร์ สามารถตอบโจทย์เรื่องการประหยัดไฟและการทำความเย็นได้ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีแนวโน้มเติบโตควบคู่ไปกับแอร์ที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง