บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG)โดยแนะนำให้ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 2.30 บาท อิง PER 17X จากกำไรของ BIG เข้าสู่ขาขึ้นเต็มตัวจากไตรมาส 4/58 ถึงสิ้นปีหน้าจากตลาดกล้องผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 55% สู่ 63% การจ่ายปันผลครั้งแรกในปี 2559 ที่ dividend yield +/- 3.6% โดยคาดหวังจะจ่ายได้ต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่เพียง PER16 11.3X สวนทางกับทิศทางกำไรขาขึ้นจากอำนาจการผูกขาดตลาดที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"เราเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของตลาดกล้องถ่ายภาพ โดยยอดขายเริ่มกลับมาโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ BIG ประสบความสำเร็จในการผลักดันตลาดให้เข้าสู่สินค้า medium to high end ที่มีคุณสมบัติที่สูงกว่ากล้องตามมือถือ นำโดยสินค้า mirrorless ที่สำคัญ social media และ smartphone ทำให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคใหม่"
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดกล้องเมืองไทยเคยมีผู้เล่นหลักคือ BIG Camera, Photohut, World camera และ Fotofile อย่างไรก็ตาม BIG อาศัยจังหวะที่ Photohut ล้มหายไป ทำให้ส่วนแบ่งตลาดขยับเพิ่มมาเป็น 55% ในปี 2558 กลายเป็นเบอร์ 1 และในช่วง 2 ปีข้างหน้า ผู้บริหารตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 70%
"จากที่ตลาดกล้องเริ่มฟื้นตัวและ BIG สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ต่อเนื่อง ทำให้กำไรสุทธิ BIG ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 กลับมาฟื้นตัว 711% เราคาดการณ์ปีนี้ กำไรสุทธิจะจบที่ 389 ล้านบาท (+184% YoY) และเติบโตต่อเนื่องปีหน้าที่ 22.5% หนุนโดยรายได้จากการขายที่เติบโต 11% YoY และประโยชน์ tax shield 190 ล้านบาท ที่จะประหยัดภาษีได้ราว 38 ล้านบาท"
ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2559 ของ BIG ด้วยวิธี PER โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2559 โต 22.5% YoY หากอิง PER 17X จะได้มูลค่าราคาเหมาะสมปี 2559 ที่ 2.30 บาท/หุ้น เท่ากับ upside สูงถึง 51% และลุ้นรับเงินปันผลครั้งแรกปี 2559 ที่ระดับ +/- 3.6%
ขณะที่นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) กล่าวว่า แนวโน้มรายได้และกำไรในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่โตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 20% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่บริษัทฯได้เป็นผู้กระตุ้นตลาดกล้องดิจิตอลด้วยการผลักดันสินค้ากลุ่มกล้อง Mirrorless จนติดตลาด ทำให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคใหม่เข้าสู่ตลาดกล้องดิจิตอล ดันยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าตลาดกล้องดิจิตอลจะกลับมาเติบโตในปีหน้า ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ