(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 26/01/16)
แนวโน้มวันที่ 27 มกราคม 2559
ราคาน้ำมันดิ่งลงอีกครั้งหลังจากโฆษกกระทรวงน้ำมันของอิรักเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของอิรักจากแหล่งน้ำมันในภาคกลางและภาคใต้เพิ่มขึ้นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์และซาอุดิอาระเบียประกาศว่าจะดำเนินการลงทุนในด้านพลังงานต่อไป ประเด็นดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน และบ่งชี้ว่าสถานการณ์ภาวะน้ำมันล้นตลาดอาจจะคงอยู่ต่อไป ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งส่งผลบวกต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งเคลื่อนไหวส่วนทางกับสินทรัพย์เสี่ยง เห็นได้จากตลาดหุ้นจีนทรุดลงกว่า 6% มาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลง ขณะที่ราคาทองคำทะยานขึ้นสร้างระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลกอาจจะจำกัดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งสอดคล้องกับผู้กำหนดนโยบายในธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กล่าวว่า การดิ่งลงของราคาน้ำมันจะเปิดโอกาสให้บีโออีมีเวลานานขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจว่า ตลาดแรงงานอยู่ในภาวะตึงตัวมากพอที่จะสนับสนุนให้บีโออีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ยิ่งสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำและทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะปรับเลื่อนเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเนื่องจากนักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนก่อนที่เฟดจะประกาศผลการประชุมออกมาในคืนวันพุธเวลาราว 02.00 น.ตามเวลาไทย สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,122-1,127 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,106-1,096 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,106 หรือ 1,096 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,122-1,127 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,106 (18,780บาท) 1,096 (18,610บาท) 1,091 (18,530บาท)
แนวต้าน 1,122 (19,060บาท) 1,127(19,140บาท) 1,135 (19,280บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,106 (18,930บาท) 1,096 (18,760บาท) 1,091 (18,670บาท)
แนวต้าน 1,122 (19,200บาท) 1,127(19,290บาท) 1,135 (19,420บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148