(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.53 น.ของวันที่ 28/01/16)
แนวโน้มวันที่ 29 มกราคม 2559
ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักลงทุน เมื่อเฟดลงมติคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 0.25-0.50% และกำลังจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินโลกอย่างใกล้ชิด แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มเติบโตปานกลาง และตลาดแรงงานมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น แม้ประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงขายทำกำไรออกมาออกมาเมื่อราคาทองคำขยับขึ้นแต่แรงขายค่อนข้างจำกัด เพราะนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยผลสำรวจของรอยเตอร์ยังคงพบว่า นักการธนาคารชั้นนำของวอลล์สตรีท เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ในช่วงต้นเดือนมกราคม ขณะที่ทางด้านนักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2016 ซึ่งนักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าในวันพุธคาดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งเพียงครั้งเดียวที่ระดับ 0.25% เดือนกรกฎาคม โดยเลื่อนจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นเดือนมิถุนายน และนักลงทุนได้ปรับลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมให้ต่ำลงด้วย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ โดยประเมินจากการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2015 ในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐอาจขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 4/2015 ลดลงจากการขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 3/2015 ทั้งนี้ ในระยะสั้นเมื่อราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,114-1,109 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ราคาทองคำมีโอกาสจะดีดตัวขึ้นได้ โดยการดีดตัวประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,127 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดแรงขายทำกำไรออกมา และเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานของราคาอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,127-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,138 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,110-1,097 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,109 (18,800บาท) 1096 (18,580บาท) 1,090 (18,470บาท)
แนวต้าน 1,127 (19,100บาท) 1,138(19,290บาท) 1,144 (19,390บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,109 (18,910บาท) 1096 (18,690บาท) 1,090 (18,590บาท)
แนวต้าน 1,127 (19,220บาท) 1,138(19,410บาท) 1,144 (19,510บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148