ผลประกอบการของปี 2558 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,396 ล้านบาทสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2557 คิดเป็นร้อยละ 11.4 เป็นผลมาจากการบริหารจัดการในหลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์การจำหน่าย การออกแบบและกำหนดสัดส่วนผลิตภัณฑ์ระหว่างการประกันภัยรถยนต์และการประกันภัยทั่วไปอย่างเหมาะสม การบริหารช่องทางการขาย การจัดโครงสร้างประกันภัยต่อเพื่อกระจายความเสี่ยงตลอดจนบริหารต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้สมดุลกับรายได้ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ มีการส่งเสริมให้พัฒนาและปรับกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภายใต้โครงการ LEAN CONCEPT
เบี้ยประกันที่ถือเป็นรายได้สำหรับปีมีจำนวน 6,063 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.7 นอกจากนี้รายได้ค่าจ้างและบำเหน็จก็ยังเพิ่มขึ้นเป็น 1,455 ล้านบาทสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 13.1 อันเนื่องมาจากการจัดโครงสร้างการประกันภัยต่อที่สมดุลโดยมีผลการประกันภัยในระดับดี รายได้และผลกำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์รวม 471 ล้านบาท ในส่วนของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบริษัทประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เงินสมทบฯ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีจำนวน 6,898 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 998 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 16.9 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในปีก่อนได้รวมการกลับรายได้สินไหมน้ำท่วมลดลงจำนวน 238 ล้านบาท ดังนั้น หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายตามปกติที่ไม่รวมน้ำท่วมของทั้งสองงวด ค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 ซึ่งน้อยกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้รวม
ในภาพรวมบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 928 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจำนวน 73 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 8.4
นางนวลพรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า "ผลการดำเนินงานที่ดีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยมีหัวใจสำคัญคือ การวางแผนและกลยุทธ์ การปรับระบบงาน การพัฒนาเทคโนโลยีและการมีบุคลากรที่ซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัยและมีความมุ่งมั่นต่อการบริการ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยผลประกอบการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ"