นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ของบริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 248.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 235.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 4,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 566 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการขายเท่ากับ 3,174 ล้านบาท รายได้จากการบริการติดตั้งเท่ากับ 1,341 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 24 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว การประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2559 จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 111 ล้านบาท
จำนวนรวมของเงินปันผลอาจมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้น หากมีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 (CSS-W1) ใช้สิทธิแปลงสภาพซื้อหุ้นสามัญในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ครบเต็มจำนวน ซึ่งเป็นวันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล จำนวนรวมของเงินปันผลจะมีจำนวนเงินรวมประมาณ 118 ล้านบาท)
อย่างไรก็ดีบริษัทได้จ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงิน 106 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อนำปันผลระหว่างกาลดังกล่าวมารวมกับการจ่ายปันผลในครั้งนี้ รวมเป็นการจ่ายปันผลงวดปี 2558 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นจำนวนรวม 217 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 97.75% ของกำไรสุทธิและกำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะของบริษัท (ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 (CSS-W1) ใช้สิทธิแปลงสภาพซื้อหุ้นสามัญครบเต็มจำนวน จำนวนรวมของเงินปันผลสำหรับปี 2558 จะคิดเป็นจำนวน 224 ล้านบาท หรือร้อยละ 101% ของกำไรสุทธิและกำไรสะสมจากงบการเงินเฉพาะของบริษัท)
โดยวันที่กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิรับเงินปันผล คือ วันที่ 25 เมษายน 2559 ให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 เมษายน 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2559 พร้อมกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 วันที่ 8 เมษายน 2559 เวลา 10.00 น. ณ ห้องแซฟไฟร์ 115-117 อาคารฟอรั่ม 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 5,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 15-20% โดยธุรกิจโทรคมนาคมยังคงเป็นธุรกิจหลักที่ยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัท เนื่องจากตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะการที่ กสทช.มีการประมูลใบอนุญาต 4G ทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานติดตั้งระบบโทรคมนาคมจากผู้ประกอบการเครือข่ายสื่อสารตามศักยภาพของบริษัทฯที่มีอยู่
"ปีที่ผ่านมางานโทรคมนาคมถือว่าคึกคักมาก หนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ และปีนี้เชื่อว่าจะยังคงดีอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการเครือข่ายสื่อสารมีแผนขายสถานีโครงข่าย 4G เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะหนุนให้บริษัทฯทยอยรับงานใหม่ๆ ภายใต้โครงข่าย 4G และยังมีโปรเจกต์ในอนาคตอีกมากมายที่บริษัทเตรียมเข้าประมูลทั้งการลงทุนในต่างประเทศ การประมูลงานภาครัฐอื่นๆ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทน โดยธุรกิจที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคตและผลักดันให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญยังคงมาจากธุรกิจโทรคมนาคมและพลังงานทดแทน"นายสมพงษ์ กล่าวในที่สุด