http://photos.prnasia.com/prnvar/20160324/8521601968
บรรยากาศการประชุม Islamic Finance Conference ที่ Mahkota 3 Ballroom ณ โรงแรม Istana Hotel กรุงกัวลาลัมเปอร์
ด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบัน Malaysian Institute of Accountants (MIA) กับ IBFIM การประชุมระยะเวลาหนึ่งวันประจำปีนี้มีประเด็นหลักอยู่ที่ 'การธนาคารแห่งโลกอนาคตในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้า' การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อยกระดับศักยภาพของคณะผู้บริหารระดับอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินอิสลาม โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเด็นและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ปฏิบัติได้จริงเพื่อก่อให้เกิดความก้าวหน้าในวงการการเงินอิสลาม
การประชุมวันนี้ครอบคลุมในหลากหลายประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น 'พลิกคำจำกัดความโมเดลธุรกิจ: การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่อการบรรลุความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง', 'การให้บริการบัญชีเพื่อการลงทุนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่แก่ลูกค้า', 'ผลกระทบของเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) ที่มีต่อวงการการเงินอิสลาม', 'เครื่องมือการเงิน MFRS 9 – ผลกระทบและความท้าทายต่อสถาบันการเงินอิสลาม', 'การระดมทุน: กลยุทธ์การระดมทุนระดับองค์กรในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน' และ 'หลักชะรีอะฮ์และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในวงการการเงินอิสลาม'
ประเด็นเหล่านี้ซึ่งมีความสำคัญและปรากฏให้เห็นในทุกวันนี้ ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของวงการการเงินอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นคุณบาดลิสยาห์ อับดุล กานี (ประธานผู้ก่อตั้ง Chartered Institute of Islamic Finance Professionals) ศาสตราจารย์ ดร.โมฮาเหม็ด อาคราม ลาลดิน (ผู้อำนวยการบริหารของ International Shari'ah Research Academy in Islamic Finance) ศาสตราจารย์ ดร.ซเยด ออธมาน อัลฮับชิ (รองประธานฝ่ายวิชาการประจำศูนย์ International Centre for Education in Islamic Finance, INCEIF) และรองศาสตราจารย์ ดร.อัซนาน ฮาซาน (สมาชิกของ Shariah Advisory Council แห่ง Securities Commission Malaysia) เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆว
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ระบบการเงินอิสลามได้รับการยอมรับจากทั่วโลก" สตีฟ วัตส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Asia Plantation Capital ประจำเอเชียแปซิฟิก กล่าว "และดูเหมือนกับว่า แนวทางความรับผิดชอบต่อสังคมและหลักจริยธรรมของการเงินอิสลามนั้นยังดึงดูดความสนใจจากผู้ที่ไม่ได้เป็นมุสลิมด้วยเช่นกัน Asia Plantation Capital มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้บริการตลาดการลงทุนอิสลามด้วยผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งได้รับการรับรองตามหลักชะรีอะฮ์จากสถาบัน IBFIM เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา การที่ผลิตภัณฑ์ของ Asia Plantation Capital ได้รับการรับรองจาก IBFIM นั้น ทำให้นักลงทุนชาวมาเลเซียและชาวตะวันออกกลางของเรามั่นใจได้ว่า เงินที่ลงทุนไปนั้นได้จัดสรรให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความมั่นคงและรับผิดชอบต่อสังคมตามหลักอิสลาม ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อทางศาสนาของตน ดังนั้นเราจึงมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง" เขากล่าวสรุป "ที่ได้มีส่วนสนับสนุนการประชุม Islamic Finance Conference 2016 ในฐานะ Gold Sponsor พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเรา"
Plantation Capital ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 ในสหราชอาณาจักร แม้ว่ามีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545 ก่อนที่จะรวมตัวเป็น Asia Plantation Capital ในศรีลังกาเมื่อปี 2552 ตามมาด้วยไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยมีพนักงานรวมกันกว่า 2,000 คน และพื้นที่เพาะปลูกอีก 126 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทมีแผนขยายธุรกิจให้ครอบคลุมวนผลิตภัณฑ์อื่นๆเพิ่มเติม เช่น ไม้ไผ่และไม้สัก ในอนาคตอันใกล้
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ซาอาฮิรา มูฮัมหมัด
ผู้บริหารอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: [email protected]
สำนักงาน: +60 122 035 344
ซาแมนธา ธาม
ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: [email protected]
มือถือ: +65 9144 0933
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Asia Plantation Capital Berhad ในมาเลเซีย กำลังทุ่มลงทุนอย่างมหาศาลในภาคการเพาะปลูกของมาเลเซีย โดยได้มีการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกใหม่ๆและโรงงานผลิตไม้กฤษณา รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ บริษัทได้มีการย้ายสำนักงานใหญ่มาไว้ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเน้นการทำธุรกิจในมาเลเซีย หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว Asia Plantation Capital ได้เปิดโรงงานแปรรูปไม้กฤษณาและโรงกลั่นน้ำมันกฤษณาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย
Asia Plantation Capital Group เป็นผู้ดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างยั่งยืนที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย บริษัทมีโครงการต่างๆใน 4 ทวีป และมีพนักงานกว่า 2,000 คนทั่วโลก สำหรับคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเราซึ่งเป็นผู้นำในวงการนั้น ประกอบด้วยนักวิชาการระดับแนวหน้าจากนานาประเทศ (จีน ไทย มาเลเซีย อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ที่ร่วมกันพัฒนารวมถึงจดสิทธิบัตรระบบและเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม
ความทุ่มเทที่มีต่อโครงการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์และธุรกิจแบบบูรณาการตามแนวดิ่งทั่วโลก ซึ่งมีประโยชน์ต่อการค้า สิ่งแวดล้อม และชุมชน ส่งผลให้ Asia Plantation Capital กลายเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบ "triple bottom line" อันทรงพลังและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20160324/8521601968