จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ ครั้งที่ 193 วันที่ 5 เมษายน 2559 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 18,696 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 47,182 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิที่สูงที่สุดในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์ในปี 2558 ทั้งนี้ ธนาคารฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราประมาณร้อยละ 30-50 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี โดยพิจารณาถึงผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ซึ่งอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 5.50 บาทต่อหุ้นนี้ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลเท่ากับร้อยละ 39.6 ของกำไรสุทธิปี 2558 ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2557
อย่างไรก็ดี เนื่องจากธนาคารฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและ ผู้ถือหุ้นสามัญไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2558 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลส่วนที่ธนาคารฯ จะต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิและผู้ถือหุ้นสามัญอีกหุ้นละ4.00 บาท โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2559 นี้ ธนาคารฯ มุ่งเน้นใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) การสนับสนุนแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ได้แก่ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ โครงการให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ 2) การรักษาระดับการเติบโตของธุรกิจหลัก โดยให้การดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ขณะที่จะดูแลการเติบโตของสินเชื่อให้เป็นไปอย่างระมัดระวังโดยเน้นที่คุณภาพของสินเชื่อ อีกทั้งจะมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม และให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและสร้างเกราะป้องกันเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน 3) การลงทุนในการสร้างรากฐานขององค์กรด้วยการสร้างระบบเทคโนโลยีและระบบงาน โดยในปี 2559 ธนาคารฯ ตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 4-6% การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 4-6% ในขณะเดียวกัน ธนาคารฯ จะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ไม่เกิน 3% ของสินเชื่อรวมจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.8%
นอกจากนี้ ในช่วงปี 2559-2563 ธนาคารฯ จะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าและสร้างธุรกิจใหม่ในกลุ่มลูกค้า SME ลูกค้า Wealth ลูกค้า Mid-corps และ Payments พร้อมทั้งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านใหม่ ๆ ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับดิจิตอลผ่านกองทุน Venture Capital และห้องแลปดิจิตอล
สำหรับการพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น มีกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง 6 คน โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเลือกตั้งกรรมการที่จะพ้นจากตำแหน่งตามวาระในปี 2559 จำนวน 4 คน กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอีกวาระหนึ่ง ได้แก่ นายอานันท์ ปันยารชุน นายประสัณห์ เชื้อพานิช นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล และนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ และที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้เลือกตั้งกรรมการใหม่จำนวน 2 คน คือ นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล และนายกานต์ ตระกูลฮุน เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ แทนศาสตราจารย์วิจารณ์ พานิช และนายชุมพล ณ ลำเลียง ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2559 เป็นต้นไป