ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2559 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2558 จำนวน 43,200,000 บาท หรือคิดเป็น 0.055 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายเงินเป็นการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานในปี 2558 และกำไรสะสม กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2559
นอกจากนี้ ยังอนุมัติการเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินเพิ่มเติมจำนวน 1,400 ล้านบาท รวมกับวงเงินเดิมที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 จำนวน 1,600 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน3,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้เมื่อถึงเวลาที่ต้องการขายโครงการและใช้เป็นทุนหมุนเวียนในอนาคต
ดร.อาภา กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2559 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก 3 โครงการที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้คือ โครงการ ริช พาร์ค @ เจ้าพระยา , โครงการ ริชพาร์ค @ เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ และโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้กว่า 900 ล้านบาท จากโครงการที่พร้อมโอน และพร้อมให้ลูกค้าได้เข้าอยู่ได้ทันที
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกได้เปิดตัว 2 โครงการใหญ่ เป็นคอนโดมิเนียม ระดับไฮเอนด์ ในนาม "THE RICH @NANA" (เดอะริช @นานา) มูลค่า 3,700 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทตอนต้น ถนนนานา ติดกับธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ ใกล้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพียง 400 เมตร และโครงการ "ริชพาร์ค@ทริปเปิ้ล สเตชั่น" (RichPark@Tripple Station) ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ เพียง 100 เมตร จากแอร์พอร์ตลิ้งค์ (AirportLink) มูลค่า 2,700 ล้านบาท และเตรียมเปิดพรีเซลในเดือนพฤษภาคม 2559 นี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า เพราะอยู่ในโลเคชั่นที่เป็นไพร์มแอเรีย
"ภายหลังจากที่เราได้มีการเปิดตัวโครงการเดอะริช@นานา และโครงการ "ริชพาร์ค@ทริปเปิ้ล สเตชั่น" ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระแสตอบรับจากลูกค้าดีมาก ทำให้เรามั่นใจว่าในช่วงเปิดพรีเซลในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ คาดว่ายอดขายน่าจะทะลุ 50% เนื่องจากทั้งสองโครงการอยู่ในทำเลที่เหมาะสม เป็นที่ต้องการของตลาด และในอนาคตจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้อยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อการลงทุนได้อย่างแน่นอน"ดร.อาภากล่าวในที่สุด