JWD ชูธุรกิจบริหารสินค้าอันตราย-ยานยนต์-ขนส่งสินค้าข้ามแดนดันรายได้ มั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวหนุนปี 59 เติบโตไม่น้อยกว่าปีก่อน

พฤหัส ๑๒ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๒๔
JWD มั่นใจครึ่งปีหลังฟื้นตัว ชูธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย บริหารยานยนต์เชิงรุกและรับขนส่งสินค้าข้ามแดนช่วยผลักดันผลการดำเนินงานปี 59 เติบโตไม่น้อยกว่าปีก่อน แม้รายได้ไตรมาสแรกที่ผ่านมาชะลอตัว เหตุจากปิดปรับปรุงพื้นที่รับฝากและบริหารชิ้นส่วนยานยนต์ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์และศูนย์รวมในการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ และธุรกิจบริหารสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่มีปริมาณนำเข้า-ส่งออกสินค้าปรับลดลงในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ แต่กลับมาฟื้นตัวแล้วในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้านผู้บริหารระบุเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจในไทยและอาเซียนต่อเนื่อง ไตรมาส 2-3 นี้เตรียมเปิดบริการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ ศูนย์รวมการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง และเปิดคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งที่กัมพูชา ช่วยดันรายได้ครึ่งปีหลัง

ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 (เมษายน-มิถุนายน) มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากความต้องการด้านโลจิกติกส์ในภาคอุตสาหกรรมการนำเข้า-ส่งออกที่ดีขึ้นและการขยายการลงทุนของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2559 จะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจหลักที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี ได้แก่ ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่มุ่งให้บริการเชิงรุกแบบ On-Site Service ภายในพื้นที่โรงงานของลูกค้าเพิ่มขึ้นและธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดนที่คาดว่าขยายตัวแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้รวมในปีนี้เติบโต หลังจากไตรมาส 1/59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 549.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ชะลอตัว ส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทฯ ตัดสินใจนำพื้นที่บริการรับฝากและบริหารชิ้นส่วนยานยนต์ภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ที่สิ้นสุดสัญญาให้บริการรับฝากสินค้า มาปรับปรุงเป็นโครงการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JCS : JWD Chemical Supply Chain) มีพื้นที่ 6,900 ตารางเมตร และโครงการศูนย์รวมในการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ (LCL Consolidate Hub) พื้นที่ 9,100 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการสินค้าและอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตรายมีรายได้ลดลงบ้างในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เนื่องจากจากปริมาณการนำเข้า-ส่งออกสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่ผ่านเข้า-ออกพื้นที่เขตท่าเรือแหลมฉบังชะลอตัว คาดว่าเป็นผลมาจากผู้นำเข้าและส่งออกรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงซึ่งจะมีผลต่อราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตามในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาปริมาณการนำเข้าสินค้ากลับมาเพิ่มขึ้นในระดับปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้

"ถึงแม้ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาชะลอตัวลง แต่ถ้าพิจารณารายได้จากกลุ่มธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่รุกให้บริการแบบ On-Site Service ภายในพื้นที่โรงงานของลูกค้าและธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน ยังมีอัตราเติบโตที่ดีและมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เราจึงมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเรามีโครงการลงทุนด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้าทั้งในไทยและอาเซียน ที่จะทยอยเปิดให้บริการและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในครึ่งปีหลัง ประกอบกับการเปิด AEC จะส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดนขยายตัวอย่างโดดเด่น" ดร.เอกพงษ์ กล่าว

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD เปิดเผยว่า ในปีนี้JWD จะเดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ในไทยและอาเซียนต่อเนื่อง โดยโครงการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์และโครงการศูนย์รวมในการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนในต่างประเทศบริษัทฯ เตรียมเปิดบริการคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งในประเทศกัมพูชาในไตรมาส 3 นี้ มีพื้นที่ 3,440 ตารางเมตร คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีอัตราเช่าพื้นที่ 50% ของทั้งหมด นอกจากนี้มีแผนขยายการลงทุนในไทยและอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบการเจรจาร่วมทุน การเข้าควบรวมกิจการและการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานปี 2559 และการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศเป็น 25% ภายในปี 2563 จากปัจจุบันอยู่ที่ 8% เพื่อก้าวสู่ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้