“ทรีนีตี้” จับตาตลาดหุ้นไทย Q3 ไต่ระดับชนเป้าหมาย 1,500 จุด รับอานิสงค์นักลงทุนลดน้ำหนักบอนด์

พุธ ๒๙ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๔:๑๙
บล.ทรีนีตี้ จับตาไตรมาส 3/2559 ตลาดหุ้นไทยไต่ระดับชนเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,500 จุด รับอานิสงค์นักลงทุนลดน้ำหนักพันธบัตรดอกเบี้ยต่ำ บวกสภาพคล่องระบบการเงินโลกอยู่ในระดับสูง พร้อมชี้ปัจจัยที่ต้องระวังอย่างใกล้ชิด ได้แก่ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดือนสิงหาคม และภาวะบอนด์ช็อค

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า มุมมองภาพรวมการตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 3/2559 ที่กำลังจะถึงนี้ คาดว่าดัชนี SET Index มีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,500 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมตามโมเดล Earning yield gap โดยประเมินภาวการณ์การลงทุนจะยังคงผ่อนคลายหลังประเด็นอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) มีความชัดเจนมากขึ้น และน่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าช่วงไตรมาสที่ 4/2559 ที่คาดว่าจะมีความผันผวนมากขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

นอกจากนั้นตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 3/2559 จะมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากปรากฏการณ์ที่นักลงทุนพยายามมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากหรือผลตอบแทนพันธบัตร (Hunger for yield) ซึ่งทำให้นักลงทุนยอมที่จะแบกรับความเสี่ยงมากขึ้นโดยปริยาย รวมทั้งปัจจัยสภาพคล่องในระบบการเงินโลกก็ยังคงอยู่ในระดับสูงท่ามกลางการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ และการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ประเด็นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในประเทศ ซึ่งมีกำหนดในเดือนสิงหาคมนี้ และภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน (Bond Shock) ที่อาจเกิดขึ้นหากแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน รวมไปถึงการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed

นายณัฐชาต กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2559 แนะนำกลยุทธ์การลงทุนและหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน ดังนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานที่มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ต่ำ ได้แก่ BANPU, BCP หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) และที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ BBL, TCAP, SCB, LHBANK หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีฐานรายได้มั่นคง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเงินปันผลแน่นอน ได้แก่ GPSC, CKP, SIRI, AP หุ้นที่ได้ประโยชน์จากงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ BEM, SEAFCO หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร ได้แก่GLOBAL, SINGER, JMART, TK หุ้นที่ได้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ความผันผวนบรรยากาศลานีญา (La Nina) ได้แก่EASTW, TVO และหุ้นที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรม (Sector) ที่ปรับตัว Laggard ตลาด ได้แก่ KCE, MONO

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest