สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 กรกฎาคม 2559 โดย YLG

พุธ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๗:๕๖
สภาวะตลาดวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,328.05-1,344.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 22,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,430 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 180 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,610 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.11 น.ของวันที่ 13/07/16)

แนวโน้มวันที่ 14 กรกฎาคม 2559

ข้อมูลเงินเฟ้อของจีนที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นแรงกระตุ้นให้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยและลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงก่อนสิ้นเดือนนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 61 ราย ได้คาดว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตเพียง 6.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงและแรงหนุนที่เคยได้รับจากภาคบริการทางการเงินจางหายไป ปัจจัยดังกล่าวบ่งชี้ว่าสกุลเงินหยวนของจีนอาจจะร่วงลงไปอีก หลังจากเงินหยวนเพิ่งดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่งในระยะนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มความกังวลให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ประเด็นดังกล่าวยังคงสร้างแรงซื้อกลับเข้ามายังตลาดทองคำ อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนประจำไตรมาส 2 ในวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม เวลาประมาณ 09.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างชัดเจนเมื่อสินทรัพย์เสี่ยงหรือตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ลดลงเมื่ออังกฤษกำลังจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เห็นได้จากราคาทองคำอ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าสัดส่วนถือครองทองคำของกองทุนลดลงถึง 16.04 ตัน หรือ 1.63% สู่ระดับ 965.22 ตัน ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาแรงขายทองคำ หลังจากช่วงก่อนหน้าราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,323 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,347 หรือ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,323 (22,010บาท) 1,311 (21,810บาท) 1,300 (21,630บาท)

แนวต้าน 1,347 (22,410บาท) 1,358 (22,600บาท) 1,366 (22,730บาท)

GOLD FUTURES (GFQ16)

แนวรับ 1,323 (22,160บาท) 1,311 (21,960บาท) 1,300 (21,780บาท)

แนวต้าน 1,347 (22,570บาท) 1,358 (22,750บาท) 1,366 (22,880บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา