ธุรกิจไทยขานรับทิศทางลงทุนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ยื่นขอลงทุนกิจการ “วิจัยพัฒนา” – “ไบโอเทคโนโลยี ”

ศุกร์ ๒๓ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๘:๐๔
บีโอไอเผย นักลงทุนไทยขานรับนโยบายใหม่บีโอไอ เตรียมลงทุนในกลุ่มวิจัยพัฒนา และ ไบโอเทคโนโลยี มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ การวิจัยพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สูตรเครื่องสำอาง วัคซีนป้องกันโรค ยารักษาโรค อาหารสัตว์ชีวภาพซึ่งช่วยลดการใช้ยาเลี้ยงสัตว์

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจาก บีโอไอได้เปลี่ยนนโยบายส่งเสริมการลงทุนมามุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ปรากฏว่า มีนักลงทุนไทยและบริษัทคนไทยแสดงความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนหลายราย โดยเฉพาะในด้านการวิจัยและพัฒนา และด้านไบโอเทคโนโลยี รวมทั้งมีแนวโน้มที่บริษัทของคนไทยจะขยายการลงทุนในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการเก็บข้อมูลการประชุมให้คำปรึกษากับนักลงทุนไทยพบว่า มีบริษัทคนไทยอีกหลายรายที่จะยื่นขอรับส่งเสริม

สำหรับกิจการในกลุ่มวิจัยและพัฒนาที่ได้รับการส่งเสริมแล้ว และเป็นกิจการที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ภาคอุตสาหกรรม อาทิ กิจการวิจัยพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ของบริษัทวีราออโตโมทีฟ จำกัด เงินลงทุน 5 ล้านบาท และกิจการวิจัยพัฒนารถโดยสารขนาดใหญ่พลังงานไฟฟ้า ของบริษัท ไทยยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด เงินลงทุน 40 ล้านบาท และกิจการวิจัยพัฒนาเครื่องจักรที่ใช้ในการหล่อโลหะแบบใหม่ ของบริษัทกิสโค จำกัด เงินลงทุน 5.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีกิจการวิจัยพัฒนาในกลุ่มอื่น ได้แก่ กิจการวิจัยพัฒนาสูตรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โดยมีลูกค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ กิจการวิจัยพัฒนากระบวนการคัดเลือกและผลิตเมือกหอยทาก เพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ของบริษัท สยามสเนล จำกัด เงินลงทุน 22 ล้านบาท

กิจการวิจัยพัฒนาในกลุ่มยาก็มีหลายโครงการ อาทิ กิจการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์แบคทีเรียเพื่อใช้ในการผลิตวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไอกรน ของบริษัท ไบโอเนท เอเชีย จำกัด เงินลงทุน 1.2 ล้านบาท กิจการวิจัยพัฒนาวัคซีนรวมหรือวัคซีนสูตรผสมที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เช่น วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก และวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ของบริษัท ไบโอเนท เอเชีย จำกัด เงินลงทุน 2.78 ล้านบาท

สำหรับกิจการของคนไทยในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน อาทิ กิจการ เทคโนโลยีชีวภาพของ บริษัท สยามไบโอซาย จำกัด เพื่อผลิตยาชีววัตถุปลอดเชื้อจากแบคทีเรียและเซลล์สัตว์เพื่อใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง โรครูมาตอยด์ โรคภูมิแพ้ และโรคสะเก็ดเงิน เงินลงทุน 330 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท สยามไบโอซาย จำกัด ยังมีกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อผลิตตัวทำปฏิกิริยาชีวภาพ จากแบคทีเรีย จากเซลล์สัตว์ และสารละลายที่ใช้ในเทคโนโลยีชีวภาพ เงินลงทุน 27 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าตัวทำปฏิกิริยาทางชีวภาพจากต่างประเทศ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ส่งผลให้ต้นทุนการตรวจวิเคราะห์ทั้งด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเกษตรลดลง และยังเป็นการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงอีกด้วย กิจการเทคโนโลยีชีวภาพที่บีโอไอให้การส่งเสริมยังมีโครงการในกลุ่มการผลิตอาหารสัตว์ด้วย โดยบริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด ลงทุน 70 ล้านบาท เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิตอาหารสัตว์หมักที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้สามารถสร้างเอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารในวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่สัตว์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง และสามารถสร้างสารยังยั้งและควบคุมเชื้อก่อโรคต่างๆ และยังเพิ่มเชื้อจุลินทรีย์ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อสัตว์ด้วย ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพดังกล่าว จะช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ของวงการปศุสัตว์ในประเทศไทยด้วย และจะส่งผลดีต่อประชาชนผู้บริโภคเนื้อสัตว์

ขณะเดียวกัน ก็มีบริษัทคนไทยอย่าง บริษัท โรงงานเภสัชกรรม เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาแผนปัจจุบัน ได้ยกระดับไปสู่กิจการ สเตมเซลล์ หรือการเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ต่อเจ้าของเซลล์ในอนาคต เงินลงทุน 26 ล้านบาท

"บีโอไอมิได้คาดหวังให้เกิดมูลค่าเงินลงทุนมหาศาลจากกิจการในกลุ่มวิจัยพัฒนา และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ เพราะประโยชน์ของกิจการเหล่านี้มิได้อยู่ที่เม็ดเงิน แต่อยู่ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศและสามารถนำไปใช้ประโยชน์กับการดำเนินชีวิตของประชาชน ทั้งด้านอาหาร ยารักษาโรค วัคซีนป้องกันโรค เป็นต้น และเกือบทุกโครงการก็มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และศูนย์ พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ" เลขาธิการบีโอไอกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest