สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 ตุลาคม 2559 โดย YLG

อังคาร ๑๑ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๗:๓๒
สภาวะตลาดวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,255.20-1,262.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,130 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,070 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.05 น.ของวันที่ 11/10/16)

แนวโน้มวันที่ 12 ตุลาคม 2559

ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ขณะที่ยังคงได้ประโยชน์จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวยอมรับได้กับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนธันวาคมแต่เขาต้องการจะรอดูว่าเศรษฐกิจกับภาวะเงินเฟ้อปรับตัวเช่นใด ก่อนจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนายอีแวนส์ไม่มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในปีนี้ แต่เขาจะมีสิทธิออกเสียงในปี 2017 ขณะที่ FedWatch ของซีเอ็มอี กรุ๊ปบ่งชี้ว่า นักลงทุนปรับตัวรับโอกาสสูงขึ้นราว 70% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำรอดูรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 20-21 กันยายน โดยจะมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันกลางดึกคืนพุธนี้ เพื่อคาดการณ์ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ปัจจัยดังกล่าวกดดันแรงซื้อตลาดทองคำให้ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงหนุนจาก เงินบาทอ่อนค่าสวนทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยร่วงลง และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตราสารหนี้ไทยทุกช่วงอายุ 1.16 หมื่นล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะตราสารหนี้อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ขายสุทธิ 615.24 ล้านบาท โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ 35.33 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,265-1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,252-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,252-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะพยายามสร้างฐานของราคาให้มั่นคง โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,265-1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,252 (20,840บาท) 1,245 (20,720บาท) 1,234 (20,540บาท)

แนวต้าน 1,265 (21,050บาท) 1,274 (21,200บาท) 1,283 (21,350บาท)

GOLD FUTURES (GFV16)

แนวรับ 1,252 (21,000บาท) 1,245 (20,880บาท) 1,234 (20,700บาท)

แนวต้าน 1,265 (21,210บาท) 1,274 (21,360บาท) 1,283 (21,510บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ