(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 25/10/16)
แนวโน้มวันที่ 26 ตุลาคม 2559
ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2559 โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งระหว่างช่วงนี้จนถึงช่วงสิ้นปี 2560 ตราบใดที่การคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกเพิ่งส่งสัญญาณในวันศุกร์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คก็ส่งสัญญาณแบบเดียวกันในวันพุธที่ 19 ตุลาคม สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งยังคงสร้างแรงขายทองคำออกมาเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมาและความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟด สนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว โดยเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 74% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ขณะที่ราคาทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม หลังจากสกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจะขยายระยะเวลาในการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับการพิจารณาทางเลือกหลายทางในการกำหนดนโยบายทำให้นักลงทุนคาดว่า อีซีบีจะไม่ปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ ส่งผลให้สกุลเงินยูโรจะปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการร่วงลง 0.95 % เมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,276-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,260-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,260-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway Up โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,276-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,254 (20,720บาท) 1,245 (20,570บาท) 1,233 (20,370บาท)
แนวต้าน 1,276 (21,090บาท) 1,283 (21,200บาท) 1,294 (21,390บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,254 (20,870บาท) 1,245 (20,720บาท) 1,233 (20,520บาท)
แนวต้าน 1,276 (21,230บาท) 1,283 (21,350บาท) 1,294 (21,530บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999