(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น.ของวันที่ 28/10/16)
แนวโน้มวันที่ 31 ตุลาคม 2559
ทีมนักวิเคราะห์ GFMS ของบริษัทธอมสัน รอยเตอร์ ประเมินว่าการพุ่งขึ้นของราคาทองคำส่งผลลบต่อคำสั่งซื้อเครื่องประดับในจีนและอินเดีย แต่ปริมาณทองคำส่วนเกินสุทธิเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2005 โดยอุปทานเศษทองเพิ่มขึ้น 20% อุปสงค์ในกองทุน ETF ทองคำปรับตัวลดลง และปริมาณการซื้อทองคำจริงในรูปของเหรียญทองคำ, ทองคำแท่ง ,เครื่องประดับทองคำดิ่งลงเกือบ 30% ต่อปีในไตรมาส 3 ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ รายงานของ บริษัทธอมสัน รอยเตอร์ ลิปเปอร์ ที่เปิดเผยผลสำรวจสำหรับสัปดาห์ล่าสุด ระบุว่านักลงทุนถอนเงิน 902 ล้านดอลลาร์ออกจากกองทุนที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐที่ลงทุนในทองคำและโลหะมีค่า เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลลบต่อราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม GFMS คาดว่า อุปสงค์ทองคำในจีนและอินเดียจะปรับตัวขึ้นในไตรมาส 4 เพราะจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านเทศกาลด้วย ขณะที่ในระยะสั้นราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ในวันศุกร์นี้ หลังจากมีการเปิดเผยผลประกอบที่ย้ำแย่ ประกอบกับตลาดเอเชียปรับตัวลดลงเช่นกัน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเม็ดเงินที่จะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เนื่องจากการคาดการณ์มากขึ้นที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ,ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีกในช่วงนี้ ประกอบกับความเสี่ยงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 2% แล้วในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความไม่แน่ใจที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออก น้ำมัน (โอเปก) จะสามารถประสานงานเพื่อลดการผลิตมากพอที่จะจำกัดปริมาณน้ำมันล้นตลาดโลกได้หรือไม่ ทำให้วายแอลจีเชื่อว่าราคาในช่วงนี้เคลื่อนไหวในกรอบ เพื่อรอความชัดเจนของปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามากระทบ
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเบื้องต้น วายแอลจียังคงแนะนำลงทุนซื้อขายในระยะสั้น จากการแกว่งตัวของราคาทองคำ เมื่อราคาย่อลงมาไม่หลุดแนวรับและเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นทยอยขายบางส่วน แล้วรอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาโดยไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,260 หรือ 1,253 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,276-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาหลุดโซน 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,260 (20,900บาท) 1,253 (20,800บาท) 1,245 (20,660บาท)
แนวต้าน 1,283 (21,300บาท) 1,294 (21,480บาท) 1,300 (21,580บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,260 (21,000บาท) 1,253 (20,900บาท) 1,245 (20,750บาท)
แนวต้าน 1,283 (21,400บาท) 1,294 (21,570บาท) 1,300 (21,670บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999