นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีเจ (KFF6MCJ) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.65% ต่อปีและกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอเอ็ม (KFF3MAM) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.6% โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
ด้านมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุน นายนาวินกล่าวว่า ผู้ลงทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นช่วงที่สหรัฐฯ เริ่มทยอยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล ตลอดจนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงาน ซึ่งน่าจะมีผลต่อตลาดและการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในการประชุม FOMC ช่วงกลางเดือนหน้า ซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ลงทุนเริ่มเห็นภาพเศรษฐกิจและการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น สำหรับในประเทศต้องติดตามการออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี ทั้งมาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และการท่องเที่ยว รวมถึงการผลักดันการประมูลโครงการขนาดใหญ่ เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รองรับเป้าหมายจีดีพีปลายปีนี้ให้เติบโตเกิน 3%
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก หรือผู้ที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้สำหรับกองทุน KFF6MCJ ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar , เงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank และเงินฝาก Union National Bank,ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank ด้านกองทุน KFF3MAM ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar และ เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KFF6MCJ และกองทุน KFF3MAM สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com