น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมยื่นไฟลิ่ง "ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์" ขนาด 4-5 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนมีนาคม 2560 เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง หลังกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง และกำไรปี 2559 และไตรมาส 4/2559 ของกลุ่มธนาคารที่ออกมาดีกว่าคาด
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงมีความกังวลจากความไม่มั่นใจตั๋ว B/E หลังบจ.หลายแห่งผิดนัดชำระ ประกอบกับ Fund flow ต่างชาติพลิกเป็น net sell หลังซื้อสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และความกังวลผลกระทบ BREXIT ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษอ่อนตัวลงและกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนตลาดหุ้น
โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารมีกำหนดส่งงบการเงินปี 2559 จนถึงวันที่ 20 ม.ค. และในวันที่ 20 มกราคม ที่นายทรัมป์มีกำหนดการเข้ารับตำแหน่งประธานธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีความกังวลที่ Foreign พลิกเป็น Net Sell หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมถึงความกังวลนโยบายของโดนัลท์ ทรัปม์จะเป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศและความเชื่อมั่นในตลาดเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อดักงบปี 2559 รวมถึงแรงเก็งกำไรกลุ่ม Commodity จะช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ทรุดตัวลงแรง
ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,590 จุด ทั้งนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มเดินเรือ ซึ่งได้อานิสงส์จากค่าระวางเรือที่ดีดตัวขึ้น แนะนำ TTA และ PSL กลุ่มพลังงาน ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง และคาดว่างบไตรมาส 4/2559 รวมถึงงบปี 2559 จะมีกำไรเติบโตขึ้น และกลุ่มธนาคาร Valuation น่าสนใจ โดย P/E 11.1 เท่า P/BV 1.2 เท่า และ Dividend Yield 3.1% โดย SCB เป็น Top pick ของกลุ่ม