คุณเฉลิมรัฐ นาควิเชียร กรรมการผู้จัดการ NetDesign Group (เน็ตดีไซน์ กรุ๊ป) เปิดเผยว่า "ตอนนี้บริษัทเราแบ่งธุรกิจเป็น 4 ส่วน internet infrastructure (อินเตอร์เน็ต อินฟราสตรัคเจอร์) , Online Advertising & Media (ออนไลน์ แอดเวอร์ไทซิ่ง & มีเดีย) ,การซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ และ โมบายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ วิสัยทัศของเราคือเมืองไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มรูปแบบ เรามุ่งเน้น4กลุ่มอย่างชัดเจนเพราะเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตจะเข้ามาขับเคลื่อนเมืองไทยเข้าสู่สังคมแห่งความรู้ สังคมแห่งความรู้นี้จะทำให้เมืองไทยทำงานน้อยลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแนวคิดเราคือ business all everyone (ธุรกิจของทุกๆคน)"
" ปีหน้า NetDesign Group (เน็ตดีไซน์ กรุ๊ป) มีโปรเจคใหญ่ร่วมลงทุน กับ GMO Inernet Group (จีเอ็มโอ อินเตอร์เน็ต กรุ๊ป) กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเตอร์เน็ตจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีบริษัทในเครือทั่วโลก ถึง 105 บริษัท, 5 บริษัทในเมืองไทย และมี 9 บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าธุรกิจลงทุนของเขาคือ2แสนล้านบาท ซึ่งโปรเจคนี้ที่ทำที่ประเทศไทยชื่อว่า "z.com" เป็นบริการครบวงจรเกี่ยวกับธุรกิจด้านอินเตอร์เน็ต ทำงานตั้งแต่เรื่องของ cloud service (คลาวด์เซอร์วิส) ระบบ e-commerce (อีคอมเมิร์ซ) การชำระเงินออนไลน์ รวมถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วย โปรเจคนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่มากของ GMO ที่เมืองไทย เขาให้ความสำคัญที่เมืองไทยอย่างมากรองจากญี่ปุ่นเลย ลงทุนมากกว่าพันๆล้าน เพื่อเสริมสร้างธุรกิจเมืองไทย เราเป็นรายแรกที่ทำระบบเก็บข้อมูล cloud service (คลาวด์เซอร์วิส) ขนาดใหญ่ในเมืองไทย คู่แข่งรายอื่นๆ เขาก็ไปลงทุนที่สิงคโปร์ซึ่งเงินก็จะหมุนเวียนที่อื่น แต่เราลงทุนที่เมืองไทยเงินก็จะหมุนเวียนที่เมืองไทย"
"ปีหน้าผมมั่นใจแน่นอนว่าโปรเจค "z.com" จะเห็นการเติบโตเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะปีหน้าเราตั้งใจอัดโปรโมทโปรเจคนี้อย่างจริงจังทั้งตัวพรีเซ็นเตอร์และสนับสนุนการกีฬา ทุกคนจะได้เห็น z.com อยู่ทุกที่และผมยังมั่นอีกว่า ยุคนี้เป็นยุคของอินเตอร์เน็ตทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ ทุกธุรกิจจะใช้อินเตอร์เน็ตทำทุกอย่าง ในญี่ปุ่นเขากำลังเปิดธนาคารออนไลน์โดยที่จะไม่มีสาขาของธนาคารเลย ปัจจุบันทุกคนใช้ออนไลน์กันหมด เรียกได้ว่าระบบเศรษฐกิจสามารถลดบุคลากรลดต้นทุนสามารถเปิดได้24ชั่วโมง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลสามารถประมวลผลให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีคอมเมิสเติบโตก้วกระโดดมากในเมืองไทยและกำลังจะผลิกเศรษฐกิจในเมืองไทยเข้าสู่ดิจิตอลเต็มรูปแบบ"