KTAM ตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์ปี60โต20% สร้างกองทุนครบเน้นจัด Asset Allcation

จันทร์ ๐๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๗ ๑๕:๑๒
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทยังคงครองอันดับ 3 ในอุตสาหกรรม โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2559 อยู่ที่ 750,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 % สูงกว่าอุตสาหกรรมที่โต 15% เพิ่มขึ้นจากกองทุนรวมมากที่สุด ประมาณ 108 ,300 ล้านบาท หรือ 33% ในขณะที่อุตสาหกรรมโต 16.4% โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มขึ้นจากกองทุนส่วนบุคคล 11,650 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 6,600 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทประสบความสำเร็จเนื่องจากได้รับการสนับสนุนที่ดีจากธนาคารกรุงไทย ในทุกๆด้าน ทำให้อัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายโตเพิ่มขึ้น ประมาณ 20 % โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายกองทุนให้มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่า ไม่ต่ำกว่า 10 กองทุน บริษัทจะมีกองทุนที่ครบมากขึ้น ส่งผลให้การจัด Asset allocation ให้กับลูกค้า มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี ในแต่ละช่วงเวลาของภาวะเศรษฐกิจ อย่างเช่นปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนย้อนหลัง1 ปี ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2559 กองทุน KT- Precious เพิ่มขึ้น 44% กองทุน KT- Mining เพิ่มขึ้น 59 % และจะมีการพัฒนาช่องการการจำหน่ายให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น โดยภายนำไตรมาส 1 จะมีการเปิดจำหน่ายกองทุน CLMV และ กองทุน China

แนวโน้มการลงทุนในประเทศ ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 3.5% สูงกว่าปี 2559 ที่ขยายตัว 3.1% ปัจจัยสนับสนุนหลัก จากการใช้จ่ายภาครัฐ งบประมาณกลางปี 2560 วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ ให้เม็ดเงินเข้ามาไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับดอกเบี้ยในประเทศต่ำ ถือว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) ยังน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ตลอดปีนี้

ส่วนเศรษฐกิจโลก คาดว่า จะมีแนวโน้มดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับมุมมองของ IMF ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัวได้ 3.4% สูงกว่าในปี 2559 อยู่ที่ 3.1% ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญมาจาก เศรษฐกิจของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน น่าจะฟื้นตัวตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น , อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มสูงขึ้น และแรงกดดันเงินฝืดเริ่มหมดไป ผลักดันให้รายได้ของครัวเรือนปรับสูงขึ้นได้ , สหรัฐฯ หันมาใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น และ ดอกเบี้ยทั่วโลกแม้จะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำและเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

แนวโน้มการลงทุนในหุ้นคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1400-1680 จุด โดยมีปัจจัยการลงทุนภายในประเทศจะเป็นปัจจัยสนับสนุน ทั้งภาวะของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ สภาพคล่องในตลาดการเงินที่ยังมีอยู่สูง อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ การเมืองที่ค่อนข้างสงบและการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ค่าเงินบาทที่มีความผันผวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่จะส่งผลต่อเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า-ออกภูมิภาคที่สำคัญได้แก่ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสำคัญๆ และการปรับเปลี่ยนผู้นำทางการเมืองของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ในขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ราคามีการเคลื่อนไหวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ระดับดัชนี SET Index ในปัจจุบันเป็นระดับราคาที่ "ไม่ถูก" นัก ดังนั้น การคัดเลือกหุ้น (Stock selection/Stock picking) สำหรับพอร์ตการลงทุนจึงมีความสำคัญอย่างมากในปี 2560 นี้

กลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า เช่น กลุ่มพลังงาน , กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความพยายามเร่งรัดการลงทุนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น

สำหรับตราสารหนี้ในประเทศ ความน่าสนใจจะอยู่ที่ตราสารระยะสั้น ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวนของตลาด ซึ่งเมื่อครบกำหนดหากอัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่เหมาะสมแล้วก็สามารถกลับไปลงทุนใหม่ (Reinvestment) ที่อัตราผลตอบแทนสูงขึ้น หรืออาจยืดอายุของตราสารที่ลงทุนให้ยาวขึ้นได้หากอัตราผลตอบแทนได้ตอบรับ (Price in) กับปัจจัยต่างๆ ไปหมดแล้ว ดังนั้น กองทุนตราสารหนี้ที่น่าสนใจในปีนี้ จะเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกองทุนรวมตลาดเงิน เช่นกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส ( KTSTPLUS)

ในปีนี้ บริษัทคัดสรรกองทุนในแต่ละประเภท ที่คาดว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ให้กับนักลงทุนได้พิจารณา ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap (KTMSEQ) เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นกองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล จุดเด่นของ KTMSEQ ได้แก่ การใช้ Bottom up approach เป็นหลักในการคัดเลือกหุ้นและบริหารกองทุน ซึ่งน่าจะเหมาะสมกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมา ราคาของหุ้นบางตัวอาจเริ่มเต็มมูลค่าหรือมีราคาค่อนข้างแพง อีกทั้งเป้าหมายของดัชนี SET Index ในปีนี้ที่ 1668 จุด หรือคิดเป็นอัพไซด์ประมาณ 8% จากระดับดัชนีฯ 1548.94 จุด ณ สิ้นปี 2559 นั้น ซึ่งถือว่ามีอัพไซด์ไม่มากนักเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยการปรับขึ้นในแต่ละปีของดัชนีฯ ในอดีตที่จะอยู่ระหว่าง 12-15% เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวเริ่มเข้าใกล้มูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้นการปรับตัวขึ้นในระยะต่อไปอาจไม่ใช่เป็นการปรับตัวขึ้นของหุ้นทั้งกระดานหรือกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งเป็นพิเศษ การคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุน (Stock selection/Stock picking) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดทำพอร์ตการลงทุนในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับงานด้านวิเคราะห์ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค รายกลุ่มอุตสาหกรรม และการวิเคราะห์ที่ลงลึกถึงรายบริษัท และเป้นหุ้นกลุ่มที่คาดว่า จะไม่ได้รับผลกระทบจากกระแสเม็ดเงินไหลเข้า-ออกของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะมีความผันผวนค่อนข้างสูงตลอดทั้งปี กองทุน KTMSEQ จึงน่าจะเป็นกองทุนหุ้นที่ตอบโจทย์นักลงทุนสำหรับภาวะการลงทุนในปีนี้

ทางด้านกองทุนต่างประเทศ แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ ( KT-FINANCE ) ซึ่งลงทุนในหน่วยลงทุน Fidelity Funds – Global Financial Services Fund เน้นลงทุนในหุ้นชองบริษัททั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการเงิน และภาคอุตสาหกรรม โดยกองทุนมีนโยบ่ยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และในปีนี้ กองทุนจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ภาพรวมอุตสาหกรรมยังคงมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่คุณภาพของสินทรัพย์อยู่ในระดับดีเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารต่างๆได้มีการตั้งสำรองและมีการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์

ส่วนการลงทุนในรายประเทศ บริษัทเลือกจีนเป็นเป้าหมายหลักของการลงทุนในปีนี้ โดยเราคาดว่าเศรษฐกิจของจีนจะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังและโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ในขณะที่การเติบโตการบริโภคภายในประเทศและการเติบโตของภาคบริการจากการเติบโตของกลุ่มประชากร Middle class จะช่วยชดเชยความเสี่ยงหากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายปกป้องทางการค้าของสหรัฐฯที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้น เศรษฐกิจจีนยังได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะกลุ่มโลหะพื้นฐานซึ่งเริ่มมีต่อฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโลหะพื้นฐานมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรต่อเนื่อง ในขณะที่หุ้นจีนยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับอดีต โดยปัจจุบันดัชนี Shanghai Composite Index มีการซื้อขายที่ระดับ PE 13 เท่า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ระดับ 14 เท่า บริษัทจึงมีแผนที่จะเสนอขายกองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อีควิตี้ ฟันด์ (KT-China) ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งกองทุนจะไปลงทุนกองทุนรวมหลัก BGF China Fund ซึ่งเน้นการบริหารเชิงรุกเพื่อรับโอกาสจากการลงทุนในตราสารทุนของบริษัท ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในหรือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในสาธารณรัฐประชาชนจีน

"ลงทุนต้องทำความเข่าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน" นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ โทร 0-2686 -6100

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๘ เม.ย. Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๘ เม.ย. Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๘ เม.ย. โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๘ เม.ย. 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๘ เม.ย. TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๘ เม.ย. SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๘ เม.ย. โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๘ เม.ย. หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๘ เม.ย. คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital