บล.แอพเพิล เวลธ์ จับตาลุ้น Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เก็งกำไรผลประกอบการบจ.ก่อนประกาศงบ ดัน SET ขึ้นทดสอบ 1,620 จุด

จันทร์ ๐๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๗ ๑๗:๔๓
บล.แอพเพิล เวลธ์ จับตา Fund Flow ลุยหุ้นไทย เก็งกำไรงบ บจ. ช่วงก.พ.-มี.ค.นี้ ดัน SET ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,620 จุด มองความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันการค้า-การลงทุนของ ทรัมป์ หนุนนักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ แนะซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน PTT , PTTEP , PTTGC , BCP กลุ่มเกษตร KBS , UVAN , UPOIC , CM และหุ้นจ่ายปันผลสูง ASP , ASK , LH , PSH , SPCG , INTUCH เข้าพอร์ต

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายวิเคราะห์อยู่ระหว่างติดตามและประเมินปริมาณ Fund Flow ของนักลงทุต่างชาติ ที่อาจจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน ก.พ. – มี.ค. นี้ ว่าจะทิศทางอย่างไร เพราะจากสถิติ ในช่วง ม.ค. – มี.ค. 5 ปีย้อนหลัง มักมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นแถบอาเซียน ไทย , อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์ ( TIP ) โดยปี 2012 ซื้อสุทธิ 732 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ปี 2013 ซื้อสุทธิ 578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ , ปี 2014 ขายสุทธิ -247 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ปี 2015 ซื้อสุทธิ 625 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปี 2016 ซื้อสุทธิ 511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการเข้าซื้อเพื่อหวังเงินปันผลประจำปี และความหวังเชิงบวกต่อผลประกอบการในช่วงต้นปี

"หาก Fund Flow นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยในช่วง ก.พ – มี.ค. นี้ในปริมาณมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท/เดือน น่าจะส่งผลบวกให้ดัชนีหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นเทรดที่ระดับ Forward P/E ที่ระดับ 15.2 – 15.5 เท่า คิดเป็นระดับดัชนีที่ 1,620 – 1,650 จุดได้ (บนสมมุติฐาน EPS Growth 2017 ที่ 10 – 11 % ) ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 1,550 จุด กรณียืนได้คาดทิศทาง ดัชนีจะเป็น Sideway ออกข้าง เพื่อยกระดับปรับตัวขึ้นต่อ โดยประเมินแนวต้านที่ 1,600 – 1,620 จุด" นายอภิชัยกล่าว

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่า อาจจะเห็นการไหลเข้าของเงินลงทุนดังกล่าว เนื่องจากทิศทาง ค่าเงิน Dollar Index เริ่มอ่อนค่าลงราว -2.6 % (MoM) จากช่วนต้น ม.ค. ที่ผ่านมา จากความไม่แน่นอนเกี่ยวนโยบายกีดกันการค้า การลงทุนของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งน่าจะส่งผลบวกให้ Fund Flow ยังคงไหลเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Ex.Japan ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น+6.5 % (MoM) ขณะที่ประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐนั้น หากพิจารณาจาก Fed Fund Rate Futures โอกาสปรับขึ้นในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ เดือน มิ.ย. – ก.ค. นี้

กลยุทธ์การแนะนำซื้อลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง เช่น PTT , PTTEP , PTTGC , BCP กลุ่มเกษตรที่ได้อานิสงส์ จากการส่งออกและราคาฟื้นตัวราคาน้ำมัน เช่น KBS , UVAN , UPOIC , CM หุ้นกลุ่ม High Dividend Yield ที่จ่ายเงินปันผลสูงกว่า 5 % และราคาหุ้นยังมี Upside มากกว่า 8 % เช่น ASP , ASK , LH , PSH , SPCG , INTUCH ส่วนการลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น ALT, SC , THCOM , UVAN , UPIOC , WIIK

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๔ กลุ่ม KTIS จับมือ Marubeni ประสานความร่วมมือในการขายเครดิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
๑๔:๒๐ ผู้ถือหุ้น TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด อัตรา 27 หุ้นสามัญ : 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสด 0.2698 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 67 รับทรัพย์ 14
๑๔:๔๙ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย
๑๔:๑๐ สสวท. เติมความรู้คู่กีฬากับ เคมีในสระว่ายน้ำ
๑๓:๐๓ ฉุดไม่อยู่! ซีรีส์ Kiseki ฤดูปาฏิหาริย์ กระแสแรง ขึ้น TOP3 บน Viu ตอกย้ำความฮอต
๑๔:๒๔ TM บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพระราม 9
๑๔:๑๒ ผถห. JR อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมโชว์ Backlog แน่น 9,243 ลบ.
๑๔:๕๐ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ
๑๔:๓๔ ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 10,524 ล้านบาท
๑๔:๑๔ กรุงศรี ร่วมมือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกธุรกิจ