อีกทั้ง ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ธพว. ได้ปรับมาตรฐานกระบวนการบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ โดยมีการปรับกระบวนการอำนวยสินเชื่อ (Credit Process) ให้มีมาตรฐาน แบ่งแยกหน้าที่รับผิดชอบระหว่างหน่วยงานด้านการตลาดสินเชื่อ หน่วยงานวิเคราะห์สินเชื่อ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจ (Check & Balance)และเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ ธพว. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่คุณภาพดีได้มากขึ้น นอกจากนี้ ธพว. ยังได้จัดตั้งหน่วยงานควบคุมคุณภาพสินเชื่อ โดยจัดให้มีกระบวนการติดตามดูแลลูกหนี้ (Loan Monitoring) ช่วยดูแลรักษาคุณภาพลูกหนี้ ทั้งนี้ สินเชื่อที่ปล่อยใหม่ในช่วงปี 2558 ถึง 2559 รวมจำนวน 66,000 ล้านบาท มีการตกชั้นหนี้เพียงร้อยละ 2.30 (1,315 ล้านบาท) และเฉพาะสินเชื่อปล่อยใหม่ในปี 2559 มีการตกชั้นเพียงร้อยละ 0.15 (51 ล้านบาท) สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่คงเหลืออยู่ 17,822 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.02 (ณ 31 ธันวาคม 2559) โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ก่อนปี 2558 และปัจจุบันไม่มีโครงการที่ขอชดเชยความเสียหายจากรัฐเพิ่มเติมอีกแล้ว
"ตั้งแต่ปี 2558 ที่ ธพว. ได้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่คุณภาพดีที่เพิ่มขึ้นมาก และการบริหารจัดการสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผลกำไรสุทธิในปี 2558 จำนวน 1,235 ล้านบาท และในปี 2559 จำนวน 1,681 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของ ธพว. มีความแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ สามารถรองรับพันธกิจหลักในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ตามนโยบายภาครัฐ และในปี2560 ธพว. จะควบคุม NPLs ที่เกิดใหม่ไม่ให้เกินร้อยละ 0.25 และทั้งปีไม่เกินร้อยละ 5 อีกทั้ง การปล่อยสินเชื่อรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ร่วมลงทุน รายละไม่เกิด 30 ล้านบาท จึงเป็นการปล่อยสินเชื่อที่กระจายไปยังผู้ประกอบการรายย่อยที่แท้จริง " นายมงคลกล่าว